ขบวนการล้มบอล 

พระราชบัญญัติส่งเสริมกีฬาอาชีพ พ.ศ.2556  ไทยถือเป็นประเทศแรกในเอเชียที่เริ่มจัดทำ โดยมี กกท. เป็นนายทะเบียน ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเล่มที่ 130 ตอนที่ 118 ก. เมื่อ 16 ธ.ค.2556 มีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่วันแห่งความรัก 14 ก.พ.2557 เป็นต้นมา 

มีประโยชน์อย่างไร กับนักกีฬาอาชีพ ข้อแรกคือให้ทัดเทียมนานาประเทศ และมีการกำหนดมาตรการคุ้มครอง ช่วยเหลือ ส่งเสริม สนับสนุน ผู้เกี่ยวข้องกับกีฬาอาชีพ เพราะกีฬาเป็นอุตสาหกรรมที่เติบโตอย่างรวดเร็วในเมืองไทย  พ.ร.บ กีฬาอาชีพ จะเป็นเหมือนกฏหมายทั่วไป ที่ใช้ในวงการกีฬา 

แต่ในปีดังกล่าว ยังไม่ได้เริ่มกับกีฬาฟุตบอล .. 

กกท.มาประกาศรับรองกีฬาฟุตบอลในปี 2560 หรือว่าเมื่อ 2 ปีที่แล้วเท่านั้น 

แล้วที่เตะกันตลอดมา ยังไม่ได้รับรองว่าเป็นกีฬาอาชีพ !! นี่คือประเด็นสำคัญ ที่จะพูดลงลึกต่อไป

ผมเป็นคนหนึ่งที่เตะบอล ดูบอล แต่ไม่เล่นพนันบอล เคยเล่นบ้างสมัยเรียน คู่ละ 50 บาทบ้าง เอาเงินกินข้าวมาแทงบอล ให้รู้ว่ามันเป็นอย่างไร แล้วก็รู้สึกว่าไม่ชอบ ซึ่งโดยส่วนตัวไม่เล่นการพนันทุกชนิด ยกเว้นสนุ๊กเกอร์ เพราะสนุ๊กมันคือ ฝีมือล้วนๆ ไม่มีดวงผสม แต่นั่นคือสมัยวัยละอ่อนที่ต้องลองของในชีวิต 

ล่าสุดเมื่อพ.ร.บ.กีฬาอาชีพ ประกาศให้ฟุตบอลเป็นกีฬาอาชีพเต็มตัว เมื่อ 2 ปีที่แล้ว บวกกับสมาคมชุดใหม่ ที่ได้อดีตนายตำรวจ ระดับชั้นยศสูงสุดในประเทศ มาเป็นผู้บริหารสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย การไล่จับขบวนการล้มบอลตามกฏหมาย จึงได้อุบัติขึ้น 

แล้วย้อนหลัง 10 ปีที่แล้ว วงการฟุตบอล อยู่กันมาได้อย่างไร นี่คือคำถาม .. ??? 

คำตอบจากความคิดเห็นส่วนตัวของผมคือ “ตามมีตามเกิด” “เงินน้อยชิดซ้าย” “ที่นี่ใครใหญ่” ฯลฯ แล้วแต่วลีที่จะคิดกันไป 

ยุคแรกๆ นักฟุตบอลมีอยู่กระหย่อมหนึ่ง ที่ใช้งานได้เลย พวกที่เล่นบอลจริงจัง ซ้อมจริงจัง กับทีมจริงจัง พอฟุตบอลเริ่มบูม ก็ถูกนักการเมืองที่กระโดดลงมาทำบอล มาซื้อตัว ให้เงินค่าเหนื่อยที่สูงกว่าทีมอื่น แล้วก็ได้นักเตะคนนั้นไป กวาดต้อนแข้งฝีเท้าดี มารวมกันในทีม แล้วส่งแข่ง คว้าแชมป์ปีต่อปี มีให้เห็นกันเนืองๆ พวกเราคงคิดว่านี่แหละฟุตบอลไทย ต้องแบบนี้ .. 

ยุคนั้น ค่าตัวนักเตะอาจจะยังไม่เท่าไหร่ คงไม่มีใครไปฉีกสัญญาอยากได้นักเตะมาร่วมทีมเหมือนเมืองนอก เพราะมันยังแค่จุดเริ่มต้น เซ็นสัญญาปีต่อปี แต่ค่าเหนื่อยเนี่ย เป็นแสน หลายแสน จนพวกเราคิดว่าฟองสบู่แตกในช่วงนั้น จริงๆมันเป็นกลไกตลาดปกตินี่แหละครับ  เมื่อดีมาน-ซัพพลายมันต่างกันมากราคาแพงมันก็เกิด

ปัจจุบันถูกทดแทนด้วยเด็กรุ่นใหม่ อะคาเดมี่ขึ้นเป็นดอกเห็ด แข้ง 30+ จะตกงาน แข้งเงินเดือนสูงจะตกงาน แทนที่ด้วยหนุ่มวัยกลัดมันวิ่งเป็นม้าแทน ฟองสบู่จึงลดลง เหลือของดีมีคุณค่าอย่างแท้จริงในไทยลีก 1 เท่านั้น   

พอวันเวลาผ่านมา วิธีการเอาชนะด้วยผู้เล่นมันคงไม่เพียงพอ 11-11 ในสนาม เราจึงเคยได้ยินวลี “11-14” “ไม่ต้องเข้าข้าง ขอแค่เป็นกลางก็พอ” “นกหวีดหวาน” “ไอ้นี่มาเป่าอีกแล้ว” 

ใช่ครับ .. มีการโกงกันเกิดขึ้น แต่ไม่มีหลักฐาน .. 

ผู้ตัดสินที่ถืออำนาจสูงสุดในสนามหญ้า 90 นาทีนั้น เข้ามามีส่วนชี้เป็นชี้ตายให้กับทีมใดทีมหนึ่งได้ .. 

กระแสนี้มีมาตลอดตั้งแต่เริ่มลีก ถามแฟนบอลรุ่นเก่าได้เลยครับ ข่าวล็อคผล ล้มบอล มันเป็นเพียงข่าวลือ ที่ไม่สามารถเค้นหาความจริงในสนามได้ เพราะเรายังไม่เข้าสู่กีฬาอาชีพ ใครจะทำอะไรก็ได้ เกมจบมีผลแพ้ชนะ มีทีมประท้วง ยื่นหลักฐานนั่นนี่ บทสรุปสุดท้าย คือ กรรมการผิดพลาด แบนกรรมการ 3 เดือน  โอว.. ชิ๊ด เพียงเท่านี้จริงๆ .. 

2010 ของลีกภูมิภาค - 2018 เราทนอยู่กับเรื่องราวแบบนี้มาตลอดกันได้อย่างไร .. ทำไมผมถึงมองลีกภูมิภาคเป็นหลัก เพราะมันไม่มีถ่ายทอดสดครับ ส่วนไทยลีก T2 มีถ่ายทอดสดทุกคู่ (แต่นั่นไม่ใช่ว่าจะรอด) 

จนกระทั่ง ..............21 พ.ย.60 สมาคมฟุตบอล เอาจริง ด้วย..ความที่เป็น ผบ.ตร เก่า และวงการตำรวจปัจจุบันไม่ใช่ใครที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร ควบ ปธ.สโมสร โปลิศ เทโร เอฟซี การหาข่าวนั้นคงเป็นไปได้ไม่ยาก และสืบจนได้ผู้ต้องหากระทำผิดล็อคแรก แถลงข่าวออกหมายจับ 12 ผู้ต้องหาคดีล้มบอล และต่อมาส่งฟ้องศาล 15 คน กันเป็นพยาน 1 คน 

นี่คือการดำเนินการอย่างจริงจัง หนแรก ภายใต้ พ.ร.บ.กีฬาอาชีพปี 2560 

ล่าสุด 17 ม.ค.62 มีข่าวจับได้อีก 3 ราย เป็นผู้ตัดสิน 2 และอดีตคนทำทีม 1 ราย ทั้งหมดได้เข้ามอบตัวแล้ว และประกันตัวไปสู้คดีต่อในชั้นศาล 

นี่คือเรื่องจริงในวงการฟุตบอลบ้านเรา ที่เราหลอกตัวเอง หลอกแฟนบอล เล่นปาหี่ จนแฟนบอลไม่เข้าสนามในช่วงหลังๆ โดยเฉพาะลีกล่างนะครับ ผมคงไม่ไปเหมารวมทั้งไทยลีก เพราะไทยลีกก็เห็นชัดเจนในการถ่ายทอดสดอยู่แล้ว คงพิจารณากันตามสภาพเอานะครับ 

ย้อนกลับมาในลีกล่างสำหรับคนทำทีม เรากำลังส่งเสริมกีฬากันอยู่นะครับ เบื้องหน้าเราบอกว่าทำทีม สร้างสโมสร ปั้นเด็ก ปั้นเยาวชน สุดท้ายกลางเป็น 11-14 ไม่ว่าจะถูกมองจากมุมของฝั่งไหนก็ตาม เพราะภาพลักษณ์เราเป็นแบบนั้นตลอดมา  

กรรมการอ่อนหัด เป่าตื่นเต้น ชูไม้ชูมือผิดฝั่งมั่วไปหมด พลาดด้วยความตื่นเต้น ก็โดนเหมารวมไปว่า “มีงาน” 

ไลน์แมน ยืนไม่ตรงไลน์ล้ำหน้า ซึ่งแฟนบอลนั่งอยู่บนอัฒจันทร์ตรงไลน์กองหลังพอดี ไลน์แมนพลาด  แฟนบอลเจอช็อตเดียว ก็เหมาไปแล้วว่า “มีงาน” 

นี่แหละครับ รอยด่างบอลไทย ตั้งแต่สมัยก่อนมี พ.ร.บ.กีฬา  เราไม่ได้ไปด่าว่า ดิสเครดิตใครหรอกนะครับ แต่ลืมตาดูโลกแห่งความจริงกันดีกว่า 

ส่วนวงการผู้ตัดสิน ไม่มีอะไรมากเลยครับ ณ วินาทีนี้ .. กล้ารับงานช่วงนี้ ก็เหมือนก้าวขาไปอยู่ในตารางครึ่งตัวแล้วครับ .. ทางเดียวคือ ฝึกฝน ฝึกสกิล เปาแค่เป็นกลางก็พอ คนทั้งประเทศเขาเห็นเอง ถ้ามันไม่ไหวพลาดบ่อย ก็เปลี่ยนอาชีพเถอะครับ ..  ทั้งยังเป็นเด็กใครต่อเด็กใคร อันนี้ ขี้เกียจไปรับรู้ เอาเป็นว่าหน้าที่ใครหน้าที่มัน ทำหน้าที่ตัวเองให้ดีดีกว่าครับ ..

กราบขอบคุณ วงการตำรวจไทย ทั้ง ผบ.ตร เก่าและใหม่ ที่ใส่ใจและติดตามอย่างจริงจัง อาจจะสาวไปได้เรื่อยๆ ได้ผู้กระทำผิดมาเรื่อยๆ จะดีมากครับ 

นี่คือเกราะเหล็ก ของวงการฟุตบอลครับ จะแทงพนันอะไร แทงกันไปครับ เพราะต่างประเทศเขาก็ถูกกฏหมายกันแล้ว แต่อย่ามาจ้างนักบอลหรือผตส.ให้ล้มบอล ล็อคผลกันเลยครับ  เขาจะเดือดร้อน..

ก่อนจะจบ วงในจาก เอเชี่ยน คัพ เสี่ยอาหรับ นั่งแทงบาห์เรน 1 ล้านเหรียญ พอ เจ้า เจ ชนาธิป ยิง ประตูชัย ปุ๊บ ...  เสี่ยอาหรับ ลุกกลับบ้านทันที .. ^^ คงจำชื่อทีมชาติไทยไปอีกนาน...