แข้งตีนเปล่าไทยแก้ตัวเกมส่งท้าย ล่มจ่าฝูงโอมาน แต่สุดท้ายแชมป์ตกเป็นของเลบานอน ด้วยประตูได้-เสีย

วันที่ 10 พฤษภาคม 2562 ศึกการแข่งขันฟุตบอลชายหาดนานาชาติ เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคล บรมราชาภิเษก รัชกาลที่ 10 "ไทยแลนด์ บีช ช็อคเกอร์ ไฟว์ 2019" ที่สนามทราย ข้างอินดอร์ สเตเดี้ยม หัวหมาก การกีฬาแห่งประเทศไทย เดินทางมาถึงวันสุดท้าย  

ทีมชาติไทย ลงเล่น 2 นัดแรก ชนะ อุซเบกิสถานมา 5-4 และแพ้ เลบานอน 1-4 มี 3 แต้ม ส่วนโอมาน ชนะเลบานอน 8-4 และชนะอุซเบกิสถาน 8-4 มี 6 แต้ม ทำให้เกมนี้ต้องพยายามชนะด้วยสกอร์ที่เยอะที่สุด หากหวังคว้าแชมป์

เกมนี้แข้งไทยจัดทัพเอา สุริยา บริเดช กลับมาออกสตาร์ทเฝ้าเสาเป็นตัวจริงอีกครั้ง ส่วนผู้เล่นนำโดย นที  จีปน, โยชิดะ มาซายูกิ, ฐานันดร ประราชะ และ วุฒินันท์ ปรือทอง 

เริ่มพีเรียดแรก ไทยดูจะคึกคักและเน้นการบีบเร็วเข้าไส่โอมาน และเพียง นาที 3 กองเชียร์รอบสนามก็เฮลั่น เมื่อ วุฒินันท์ ปรือทอง ได้โอกาสวอลเล่ย์บอลตรงระยะ 9 เมตร บอลพุ่งเบียดเสาเข้าไปอย่างสวยงามให้ทีมไทยนำ 1-0

เกมจากนั้นโอมาน โหมหนักด้วยการเล่นบอลยาว สลับกับลูกโด่งเพื่อกดดัน แต่เกมรับของไทยวันนี้ช่วยกันได้ดี และ นาที 10 ของเกม วุฒินันท์ ปรือทอง แลบขึ้นมารับบอลทางฝั่งซ้าย ก่อนพลิกบอลแล้วกดด้วยเท้าขวาเต็มแรงบอลพุ่งเสียบเสาสองเข้าไปทีมชายหาดไทยขยับนำ 2-0

เข้าสู่พีเรียดที่ 2 โอมานเปิดเกมบุก นาที 15 เอ็ด อัล ฟาซี่ ส่องไหลบอลหลุดเสาไปนิดเดียว

นาที 16 คลาลิด อัล โอไรมี่ งัดบอลโด่งแล้วกดเองจากระยะไกล สุริยา บริเดช พุ่งปัดปลายมือ เรียกเฮจากแฟนบอลลั่นสนาม แต่นาทีเดียวกัน เกมรับไทยพลาดปล่อยให้ ชาริฟ อัล บูลูซี่ หลุดเข้าไปแล้วยิงง่ายๆ ให้โอมานไล่มา 1-2 จนได้

เกมบี้กันสนุกขึ้น เมื่อโอมาน โหมหนัก นาที 19 ยูนิส อัล โอวาซี่ ประตูของโอมาน ยิงบอลไกล แต่ว่า สุริยา บริเดช นายด่านของไทยใช้ขาสกัด ก่อนจะงัดแล้วยิงสวนกลับทันที บอลลอยโด่งโค้งเสียบใต้คานเข้าไปเล่นเอาตะลึงกันทั้งสนาม ทีมไทยนำ 3-1  

นาที 24 คลาลิด อัล โอไวซี่ กัปตันทีมโอมานซัดไกลอีกครั้งบอลออกข้างเสาไป ทำให้จบพีเรียดที่ 2 ทีมไทยนำ 3-1 

ลงมาพีเรียดที่ 3 แข้งไทยลงสู้ด้วยความคึก และ นาที 26 คมกริช ณ น่าน กัปตันทีมได้บอลตรงเขต 9 เมตรแล้วพลิกยิงด้วยขวาบอลพุ่งเข้าตาข่ายให้ไทยนำ 4-1 

นาที 28 ชารีฟ อัล บูลูชี่ ของโอมานซัดบอลระยะไกลลูกชนเสาอย่างจัง ไทยรอดการเสียประตูไปหวุดหวิด

นาทีเดียวกันทีมไทยได้ฟาวล์ในแดนตัวเองและได้เตะโทษระยะไกล ก่อนที่ ฐานันดร ประราชะ จะยิงบอลเรียดพุ่งเสียบโคนเสาสวยงามทีมไทยนำห่าง 5-1 

นาที 30 โอมาน ได้โทษตรงกลางสนาม โอไรมี่ ได้ซัดบอลหลุดเสาออกหลัง 4 นาทีต่อมา ไทยโดนโทษระยะ 9 เมตร ซามี่ อัล บูลูซี่ ยิงหลอกด้วยการยกบอลเบาๆข้ามหัว วัฒนชัย สระทองจันทร์ ผู้รักษาประตูสำรอง แต่ไปชนเสา ไทยรอดการเสียประตูอีกครั้ง

นาที 35 ทีมไทยได้สวน และเป็น คมกริช ณ น่าน ที่ได้โอกาสล้มตัวตวัดยิงตรงหน้าตุงตาข่ายให้ไทยนำ 6-1

เวลาที่เหลือโอมานเร่งไม่ขึ้น จบเกมทีมไทยทำสำเร็จเอาชนะโอมานไปขาดลอย 6-1 ส่วนผลอีกคู่ที่จบลงก่อนหน้านี้ เลบานอน เอาชนะ อุซเบกิสถาน 7-2  

จากชัยชนะของทีมชาติไทย ทำให้ทั้งไทย, โอมาน และ เลบานอน ต่างมี 6 แต้มเท่ากัน จึงต้องตัดสินด้วยการดูจากประตูได้-เสีย และผลปรากฏว่า เลบานอน คว้าแชมป์ไปครอง เมื่อยิง 15 ลูก เสีย 11 มีประตูบวก 4 

ขณะที่ทีมไทยได้เพียงรองแชมป์ เมื่อยิงได้ 13 เสีย 9 ผลต่างบวก 4 เช่นกัน แต่ว่าประตูได้ไทยเป็นรอง 2 ประตู ด้านโอมานได้อันดับ 3 ยิงได้ 17 เสีย 14 บวก 3 และอุซเบกิสถานได้อันดับ 4 

หลังจบการแข่งขันได้มีพิธีมอบรางวัล โดยได้รับเกียรติจากนายวิษณุ ไล่ชะพิษ รองผู้ว่าการฝ่ายส่งเสริมกีฬา พร้อมด้วย พล.ท.อิสระ วัชรประทีป ที่ปรึกษาผู้ว่า กกท.และผู้จัดการทีมชาติไทย, นายยุธยา จีนหีต หัวหน้างานพัฒนาและสถิติการแข่งขันกีฬาเป็นเลิศ กกท. และ นายอดิศักดิ์  เบ็ญจศิริวรรณ ประธานพัฒนาฟุตซอลและฟุตบอลชายหาดแห่งชาติ ร่วมมอบรางวัล 

นอกจากนี้ยังมีการมอบรางวัลแฟร์เพลย์ ซึ่งได้แก่ทีมชาติไทย และดาวซัลโวตกเป็นของ คลาลิด อัล โอวาซี่ ของโอมานที่ยิงไป 6 ประตู