ปราสาทสายฟ้า เล่น 120 นาที บุกเฉือน แข้งเทพ คารัง 1-0 ผ่านเข้ารอบรองฯ ลีกคัพ 2019
เกมซุปเปอร์บิ๊กแมตช์นัดกลางสัปดาห์ วันพุธ ที่ 24 ก.ค. 62 เวลา 19.00 น. ซึ่งเกมนี้เป็นการดวลกันครั้งที่ 2 ในรอบ 1 สัปดาห์ หนนี้ฟาดแข้งกันในศึกฟุตบอลถ้วย ลีกคัพ 2019 รอบ 8 ทีม ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เปิดสนามทรู สเตเดี้ยม พบ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด โดยก่อนหน้านี้ ในศึกฟุตบอลไทยลีก 1 ผลการแข่งขันจบลงด้วยการแบ่งแต้ม เสมอกันไป 1-1 ณ สนามช้าง อารีนา เมื่อวันที่ 21 ก.ค. 62 ที่ผ่านมา
เริ่มเกมที่เยือนเป็นฝ่ายเริ่มเกมก่อน โดยบุกจากขวาไปซ้าย
นาทีที่ 6 เนลสัน โบนีญ่า ลากบอลมาจากครึ่งสนามก่อนแทงไปทางขวาให้ ปกเกล้า อนันต์ แปบอลต่อไปหน้าประตู แต่เข้ามือ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ก่อนที่ วานเดอร์ หลุยซ์ จะถึงบอล
นาทีที่ 9 วานเดอร์ หลุยซ์ เปิดบอลข้ามฝั่งมาทางขวา หวังให้ เอกชัย สำเร แต่บอลตกพื้นแล้วแรงไปหมดโอกาสทำประตู
นาทีที่ 19 อภิวัฒน์ งั่วลำหิน โดนใบเหลืองแรกของเกม จากการทำฟาวล์ใส่ เนลสัน โบนีญ่า
นาทีที่ 23 ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา เก็บตกแถวหน้าปากประตูเจ้าถิ่นได้ ก่อนยิงไปติดแนวรับ และซ้ำอีกทีก็เข้ามือ ไมเคิล ฟาลเคสการ์ด รับสบาย
นาทีที่ 24 ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ได้หลุดไปดวลตัวต่อตัวกับ ไมเคิล ฟาลเคสการ์ด แต่พาบอลล็อกหลบไม่ผ่าน นายด่านชาวฟิลิปปินส์รับไว้ได้
นาทีที่ 25 ทีมเยือนบุกอย่างหนักก่อนบอลมาเข้าทาง ศุภชัย ใจเด็ด แถวหน้าประตูตรงเส้น 18 หลา ยิงด้วยซ้ายบอลผ่านมือ ไมเคิล ฟาลเคสการ์ด แต่ไปโดนเสาเหลี่ยมในออกไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 29 สเตฟาน ปัลลา เก็บตกลูกโหม่งของ ทอม มานูเอล เบียรห์ ก่อนส่งให้ ราสมุส จอห์นสัน ลากไปหน้าเขตโทษ แทงต่อให้ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา จ่อๆคนเดียว แต่ยิงไม่ผ่านมือ ไมเคิล ฟาลเคสการ์ด ป้องกันออกไปได้
นาทีที่ 30 เจ้าถิ่นโต้กลับเร็ว เอกชัย สำเร หลุดมาทางขวา เปิดให้ เนลสัน โบนีญ่า โหม่งเต็มๆหัว แต่บอลหลุดออกเสาแรกอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 32 เนลสัน โบนีญ่า เอาบอลเข้าสู่ก้นตาข่ายได้แล้ว แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินปฏิเสธการได้ประตูของเจ้าถิ่น โดยยกธงให้เป็นลูกล้ำหน้า
นาทีที่ 38 ปกเกล้า อนันต์ ได้ลองยิงไกลนอกเขตโทษ บอลหลุดออกเสา 2 ไปอย่างน่าเสียดาย สกอร์ยังเสมอกันที่ 0-0
นาทีที่ 40 กรกช วิริยอุดมศิริ ทุ่มบอลเร็วให้ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ใช้ความเร็วหนี ทอม มานูเอล เบียรห์ หลุดเข้าไปยิงแต่ไม่ผ่านมือ ไมเคิล ฟาลเคสการ์ด ป้องกันไว้ได้อีกครั้ง
นาทีที่ 43 ศศลักษณ์ ไหประโคน จ่ายให้ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา คืนให้ ราสมุส จอห์นสัน ยิงโค้งๆด้วยซ้าย ไมเคิล ฟาลเคสการ์ด ยังล้มตัวไปปัดไว้ได้อีกครั้ง
หมดเวลาใน 45 นาทีแรกทั้งคู่ยังไม่สามารถทำประตูได้ เสมอ 0-0 โดยเกมค่อนข้างเปิดแต่ในจังหวะสุดท้ายต่างฝ่ายยังไม่คมพอ
เริ่มเกมในครึ่งเวลาหลังทั้ง 2 ทีม ยังใช้ผู้เล่นชุดเดิมไม่มีรายงานการเปลี่ยนตัว
นาทีที่ 47 ทอม มานูเอล เบียรห์ โดนใบเหลืองตั้งแต่ 2 นาทีแรกของครึ่งเวลาหลัง จากการไปเล่นงาน ศุภชัย ใจเด็ด
นาทีที่ 56 ราสมุส จอห์นสัน ลากบอลมาตั้งแต่ครึ่งสนามก่อนแทงให้ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ยิงติดแนวรับออกไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 57 สเตฟาน ปัลลา โดนใบเหลืองย้อนหลัง จากนั้นนาทีต่อมาเจ้าถิ่นโต้กลับเร็ว วานเดอร์ หลุยซ์ ลากบอลก่อนส่งให้ เนลสัน โบนีญ่า ยิงแฉลบแนวรับทีมเยือนออกไป
นาทีที่ 62 เจ้าถิ่นเปลี่ยนตัวผู้เล่นในแนวรับเอา พุทธินันท์ วรรณศรี ลงแทน วันชัย จารุนงคราญ
นาทีที่ 66 เจ้าถิ่นเปลี่ยนตัวผู้เล่นเอา ทศวรรษ ลิ้มวรรณเสถียร ลงแทน วิศรุต อิ่มอุระ
นาทีที่ 68 จักรพันธ์ แก้วพรม แทงให้ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา หลุดเดี่ยวดวล ไมเคิล ฟาลเคสการ์ด อีกครั้ง แต่ก็ยังไม่สามารถทำประตูได้เช่นเคย สกอร์ยังอยู่ที่ 0-0 จากจังหวะนี้ เนลสัน โบนีญ่า โดนใบเหลืองจากการอัดเข้าใส่ จักรพันธ์ แก้วพรม หลังแทงให้ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา
นาทีที่ 72 ทีมเยือนเปลี่ยนตัวผู้เล่นเอา สุภโชค สารชาติ ลงแทน ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา
นาทีที่ 78 จักรพันธ์ แก้วพรม แทงให้ ศศลักษณ์ ไหประโคน กึ่งยิงกึ่งผ่าน ศุภชัย ใจเด็ด เข้าไม่ถึง บอลผ่านหน้าประตูไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 86 ทีมเยือนเปลี่ยนตัวผู้เล่นคนสุดท้ายเอา รัตนากร ใหม่คามิ ลงแทน จักรพันธ์ แก้วพรม
นาทีที่ 88 สเตฟาน ปัลลา ลากบอลมาทางขวา ก่อนตัดเข้าในยิงไกลนอกกรอบ บอลหลุดข้ามคานอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 90+1 สุภโชค สารชาติ ทำชิ่งกับ ศุภชัย ใจเด็ด ก่อนล็อกหลบ เอเวอร์ตัน ล้มไม่เป็นท่า แต่ก็ยิงไม่ผ่านมือ ไมเคิล ฟาลเคสการ์ด จบ 90 นาทียังทำอะไรไม่ได้สกอร์ยังอยู่ที่ 0-0 ต้องต่อเวลาอีกครึ่งละ 15 นาที
เริ่มเกมต่อเวลาพิเศษ นาทีที่ 91 เจ้าถิ่นเปลี่ยนตัวผู้เล่นคนสุดท้ายเอา กษิดิศ ซิกฮาร์ท ลงแทน แอนโทนี่ เพ็ชร อำไพพิทักษ์วงศ์
นาทีที่ 95 ทีมเยือนเปลี่ยนตัวผู้เล่นคนที่ 4 ในช่วงการต่อเวลาพิเศษเอา นาเซอร์ บาราซีต ลงแทน ราสมุส จอห์นสัน
นาทีที่ 98 นาเซอร์ บาราซีต เกือบแผงฤทธิ์ เก็บตกจากการสกัดไม่ดีของแนวรับเจ้าถิ่น แต่ยิงบอลผ่านหน้าประตู ไปแบบน่าเสียดาย
นาทีที่ 102 อันเดรส ตูเญซ โดนใบเหลืองจากการเข้าไปอัดด้านหลัง วานเดอร์ หลุยซ์
นาทีที่ 103 วานเดอร์ หลุยซ์ จ่ายบอลให้ ทอม มานูเอล เบียรห์ หลุดดวล ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ยิงไปติดตัวบอลไหลเข้าทาง พุทธินันท์ วรรณศรี จิ้มบอลสุดปลายเท้าที่มี อันเดรส ตูเญซ เข้ามากดดัน ชนเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย
จบในช่วงครึ่งแรกของการต่อเวลาพิเศษ สกอร์ยังอยู่ที่ 0-0
เริ่มเกมกันต่อใน 15 นาทีสุดท้ายของการต่อเวลาพิเศษ หากยังหาผู้ชนะไม่ได้ต้องตันสินกันที่ การยิงจุดโทษชี้ขาด
นาทีที่ 110 สรรวัชญ์ เดชมิตร ทำชิ่งกับ ทศวรรษ ลิ้มวรรณเสถียร ก่อนเปิดไปหน้าประตู แต่ เนลสัน โบนีญ่า เข้าไม่ถึงบอล บอลผ่านหน้าประตูไปอย่างเสียดาย
นาทีที่ 112 เจ้าถิ่นเปลี่ยนตัวผู้เล่นคนที่ 4 ในช่วงการต่อเวลาพิเศษเอา มิก้า ชูนวลศรี ลงแทน ปกเกล้า อนันต์
นาทีที่ 113 ทีมเยือนได้เฮ หลัง นาเซอร์ บาราซีต หลุดมาทางขวา ยิงมุมแคบผ่านมือ ไมเคิล ฟาลเคสการ์ด ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด 0-1 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
นาทีที่ 120 ฮาจิเมะ โฮโซไก วางบอลยาวให้ สุภโชค สารชาติ วิ่งแข่งกับ ทศวรรษ ลิ้มวรรณเสถียร ก่อนยิง แต่ ไมเคิล ฟาลเคสการ์ด ปัดออกไปได้
ต่างฝ่ายต่างทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ ผู้ตัดสินเป่าหมดเวลาการแข่งขัน 120 นาที บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บุกมาเอาชนะในบ้าน ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด 1-0 ผ่านเข้ารอบ 4 ทีมต่อไป
รายชื่อ 11 ผู้เล่น
ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด : ไมเคิล ฟาลเคสการ์ด (GK), เอกชัย สำเร, เอเวอร์ตัน, ทอม มานูเอล เบียรห์, แอนโทนี่ เพ็ชร อำไพพิทักษ์วงศ์ (C), วานเดอร์ หลุยซ์, ปกเกล้า อนันต์, เนลสัน โบนีญ่า, วันชัย จารุนงคราญ, สรรวัชญ์ เดชมิตร, วิศรุต อิ่มอุระ
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน, อันเดรส ตูเญซ (C), ศศลักษณ์ ไหประโคน, ฮาจิเมะ โฮโซไก, ศุภชัย ใจเด็ด, จักรพันธ์ แก้วพรม, กรกช วิริยอุดมศิริ, อภิวัฒน์ งั่วลำหิน, ราสมุส จอห์นสัน, สเตฟาน ปัลลา, ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา
