กุนซือสิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด รับการเสีย 2 ประตูครึ่งแรกคือความผิดพลาดที่ส่งผลถึงตกรอบ แต่เหน็บผู้ตัดสินไทยไม่เคยพัฒนา ชี้จากนี้หันโฟกัสฟุตบอล 2 รายการที่เหลืออยู่

"กว่างโซ้งมหาภัย" สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ตกเป็นรอง การท่าเรือ เอฟซี ตั้งแต่ไม่ทันครึ่งชั่วโมงแรก 3-0 ก่อนมาเร่งเครื่องทำประตูคืน 2 ลูกรวดจาก บิลล์ โรซิมาร์ ทว่าช่วงท้ายเกม วิลเลี่ยม เอ็นริเก้ ไปโดนเหลืองที่ 2 เป็นใบแดง ส่งผลให้สุดท้าย แชมป์เก่าไล่ไม่ทัน จอดป้ายในรอบ 8 ทีมสุดท้ายฟุตบอลถ้วย ช้าง เอฟเอ คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย

ด้าน ไอล์ตัน กุนซือสิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด กล่าวหลังเกมว่า “ครึ่งแรกเราผิดพลาดเอง ที่ปล่อยให้ทีมเสียประตูไป 2 ลูก แต่ว่าครึ่งหลังเราก็พยายามที่จะเอาผลการแข่งขันกลับมาให้ได้ แต่เวลามันก็มีไม่พอ มันก็เป็นความผิดพลาดของเราเอง ก็ต้องขอแสดงความดีใจกับการท่าเรือ วันนี้ทุกคนดูตั้งใจเล่นมาก และแฟนบอลก็เชียร์การท่าเรือกันเต็มที่ ก็หวังว่าจะเป็นวันที่ทีมการท่าเรือจะมีความสุข”

“วันนี้ก็ถือว่าเป็นเกมใหญ่เกมหนึ่ง หลายๆ คนก็อยากจะดูเกมนี้ ไม่ว่าจะเข้ามาชมในสนามหรือผ่านทางจอทีวี อยากจะเห็นฟุตบอลที่ดี อยากจะเห็นพัฒนาการของนักกีฬา เราก็ตั้งใจในการเตรียมทีม ให้นักกีฬามีสภาพที่สมบูรณ์ และเล่นฟุตบอลได้ดีที่สุด ก็เชื่อว่าการท่าเรือก็ทำเหมือนกัน”

“แต่สิ่งที่ไม่มีการพัฒนาเลยก็คือ การตัดสินของผู้ตัดสิน แน่นอนว่าการตัดสินแต่ละครั้งมันมีผลกระทบหมด มีจังหวะที่เราควรจะได้จุดโทษแต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผู้ตัดสินหรือแม้กระทั่งไลน์แมนก็ไม่ได้ยกธง ปล่อยให้จังหวะนั้นเล่นต่อ แล้วสุดท้ายก็กลายเป็นเราที่เสียลูกที่ 3 ไป ทำให้ทีมมันก็เปลี่ยนกลายเป็นอีกอย่างหนึ่ง ไม่จำเป็นที่ผู้ตัดสินจะต้องตัดสินเข้าข้างเรา แต่ขอแค่ให้ตัดสินตามเกม ตามรูปแบบ ตามสิ่งที่มันควรจะเป็น ก็เชื่อว่าทุกทีมรับได้ทุกอย่างถ้ามันชัดเจน”

กุนซือ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด กล่าวต่อว่า “เราก็ต้องมาโฟกัสในเกมต่อๆ ไป เรายังมีบอลลีกอยู่ ที่เราจะสามารถลุ้นแชมป์ได้ หรือว่าบอลรายการโตโยต้า ลีกคัพ ที่เราอยู่ในรอบรอง เราก็จะดูแลรักษาสภาพร่างกายนักเตะให้พร้อมในทุกเกมที่สุด”

“เราก็กังวลในจุดนี้อยู่แล้ว 8 นัดในลีก ตอนนี้ทุกนัดมันเหมือนนัดชิง ต้องยอมรับเลยว่าในปีนี้เราไม่ได้รับความยุติธรรมหลายๆอย่างจากการตัดสิน มันเปลี่ยนแปลงการแข่งขัน สร้างความบั่นทอนจิตใจนักเตะของเราหลายครั้ง”

“ประสบการณ์ที่เคยคุมทีมในบราซิล แน่นอนว่ามันไม่เหมือนที่ประเทศไทย แน่นอนว่าการตัดสินผิดพลาดมันเกิดขึ้นได้ แต่ว่ายังได้เห็นพัฒนาการของผู้ตัดสินตลอด แต่ที่ไทยผิดพลาดมาตั้งแต่แรกๆ ก็ยังไม่เห็นพัฒนาการ”

“การที่มีบอลถ้วยมาแทรกบอลลีก มันก็ไม่ได้ทำให้เสียสมดุล เราพยายามที่จะมองเป็นเกมต่อเกมอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นแน่นอนว่าจุดโฟกัสในแต่ละเกมมันไม่เหมือนกัน”

ขอบคุณภาพจาก chiang rai united fc