กุนซือชัยนาท ฮอร์นบิล ตั้งคำถามลูกทุ่ม ฟิลลิป โรลเลอร์ ที่เป็นที่มาของประตูชัยของคู่แข่งเป็นทุ่มฟาล์วหรือไม่ แต่ยอมรับ ราชบุรี สมควรเป็นผู้ชนะ มองโอกาสชัยนาท ฮอร์นบิล รอดตกชั้นยากขึ้นหลังโปรแกรมบีบแคบลงเหลือแค่ 5 นัด
ควันหลงหลังเกมไทยลีก ในเกมที่ ชัยนาท ฮอร์นบิล บุกพ่าย ราชบุรี มิตรผล เอฟซี 1-2 ส่งผลให้สถานการณ์ล่าสุด “นกใหญ่พิฆาต” ยังคงจมในโซนท้ายตาราง มี 24 แต้มจาก 25 นัดที่ลงสนามรั้งอันดับ 14 ในศึกไทยลีก
ด้าน เดนนิส อมาโต้ กุนซือชัยนาท ฮอร์นบิล กล่าวหลังเกมว่า “ถือว่าโอเค ทีมที่เล่นได้ดีกว่าก็เป็นทีมที่ชนะไป มีแค่ช่วง 25 นาทีแรกที่ทางชัยนาทสามารถเล่นได้ดี ทำตามแท็กติก สามารถหาโอกาสเข้าทำได้ สามารถเคาน์เตอร์เพรสซิ่งได้ แต่หลัง 25 นาทีไป เป็นทางราชบุรี ที่สามารถคอนโทรลเกมได้ ครองเกมได้แล้วก็เป็นผู้ชนะไป”
“เกมนี้ไม่สามารถปรับเปลี่ยนอะไรได้เยอะมาก เพราะสามการเปลี่ยนตัวของเราเป็นการเปลี่ยนตัวเนื่องจากอาการบาดเจ็บหมดเลย อดัม ทัล ในช่วงต้นเกมก็มีอาการบาดเจ็บ ช่วงต้นครึ่งหลังมี ลักษณะ คำรื่น แบ็กขวาของเราก็มีอาการบาดเจ็บ ส่วนคนสุดท้ายของเรา ฉัตรชัย คุ้มพญา ก็มีอาการบาดเจ็บทำให้เราไม่สามารถเปลี่ยนอะไรได้มากในระหว่างเกม เพราะฉะนั้นก็ตรงๆ ราชบุรีเป็นทีมที่คู่ควรที่จะชนะไป เล่นได้ดีกว่า แต่ว่าประตูที่สองเขาค่อนข้างที่จะไม่แน่ใจเท่าไหร่ว่ามันถูกต้องหรือเปล่าควรเป็นประตูรึเปล่า”
อมาโต้ ตั้งคำถามถึงลูกทุ่มของ ฟิลลิป โรลเลอร์ ว่าผิดกฎหรือไม่จนเป็นเหตุให้ทีมเสียประตูที่ 2 ด้วยว่า “ตอนช่วงก่อนที่ครึ่งหลังเริ่มเขามีการบอกกับกรรมการที่สี่แล้วนะครับว่าให้ลองเช็คการทุ่มของฟิลลิป โรลเลอร์ว่าถูกต้องหรือเปล่า เพราะจากที่เขาสังเกตเหมือนเป็นการทุ่มมือเดียวในจังหวะสุดท้ายก่อนที่บอลจะออก”
“ลักษณะการทุ่มบอลที่เขาเห็นเหมือนว่าเป็นการทุ่มด้วยมือขวามือเดียว มือซ้ายเหมือนใช้ไว้ประคองเฉยๆ ไม่ได้อยู่หลังบอล ซึ่งมันไม่ถูกกฎ และอาจจะเป็นสาเหตุนึงที่ ฟิลลิป โรลเลอร์ สามารถทุ่มลูกที่เราเสียประตูเข้าไปในกรอบได้ขนาดนั้น กับการที่พยายามบอกกรรมการแต่กรรมการเหมือนเดิมรีแอคชั่นคือยิ้มกลับมาเฉยๆ เลยไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้ เพราะฉะนั้นอาจจะไปดูเทปย้อนหลังหรือภาพช้าได้ บางทีเขาอาจจะคิดผิด เขาอยากทราบฟีดแบคเหมือนกัน แต่เหมือนเดิมคือเราแพ้เกมนี้เป็นเพราะทีมราชบุรีเป็นทีมที่ดีกว่าจริงๆ”
“อย่างแรกเลยทุกเกมมันผ่านไปเรื่อยๆ เราไม่สามารถเก็บแต้มได้มันยิ่งทำให้งานของเรามันยากขึ้นหนักขึ้น จริงๆ เรารู้เป้าหมายตั้งแต่เกมแรกตั้งแต่ฤดูกาลมันเปิดว่าทีมเราเล่นเพื่อพยายามหนีตกชั้นให้ได้ อยู่รอดในไทยลีกให้ได้ แล้วก็เราจะตัดสินวัดกันไปยาวๆจนถึงนัดสุดท้าย พอมันถึงนัดสุดท้ายเมื่อไหร่แล้วเรามีโอกาสที่เราจะอยู่รอดเราก็จะพยายามทำให้เต็มที่”
“เราต้องพยายามให้มากขึ้น ทำงานให้หนักขึ้น เราก็อยากขอความร่วมมือกับแฟนบอลให้ ซัพพอร์ต กันมากขึ้นเข้าใจว่าช่วงนี้ฟอร์มของชัยนาทอาจจะหลุดไปแต่ก็น่าจะสังเกตเห็นว่าทีมเราก็พยามเต็มที่แต่ว่าผลมันไม่ออกมาอย่างที่ควร เลยอยากขอ ซัพพอร์ต จากแฟนบอลเพิ่มเติม”
อมาโต้ พูดถึงแผนในช่วงเบรกฟีฟ่าด้วยว่า “อย่างแรกหลังจากเบรกคือให้นักกีฬากลับบ้านพักผ่อนก่อน หลังจากช่วงพักผ่อนจะมีการซ้อมหนักมากขึ้นเพื่อมาเจอกับสุโขทัยซึ่งเขาบอกว่าสุโขทัยเป็นเหมือนนัดชี้ชะตาของเราต้องชนะให้ได้ครับถ้าหากเราไม่สามารถชนะได้ทุกอย่างมันจะเริ่มยากขึ้น เพราะฉะนั้นสิ่งที่เขาทำได้คือต้องพยายามซ้อมให้หนัก”
“เราสนแค่สุดท้ายเรารอดตกชั้นก็พอวินาทีสุดท้ายของฤดูกาลหรือว่าเป็นแมตซ์ก่อนสุดท้ายก็ตาม แต่ว่าสิ่งหนึ่งที่สามารถตอบตอนนี้ได้เลยคือเราไม่สามารถวัดกันที่เฮดทูเฮดกับทีมที่หนีตกชั้นด้วยกันได้ครับ สิ่งที่เราทำได้คือเราต้องมีหนึ่งแต้มมากกว่าสามทีมที่เราหนีตกชั้น ซึ่งมันเป็นงานที่ยาก แน่นอนทุกๆคนในทีมไม่มีใครอยากตกชั้นอยู่แล้วเพราะฉะนั้นเราจะทำทุกอย่างทุกวิถีทางจนวินาทีสุดท้ายเพื่อให้รอดการตกชั้น”
กุนซือชัยนาท ฮอร์นบิล ยังถูกถามให้เทียบขุมกำลังชุดนี้กับเมื่อซีซั่นก่อน โดยกุนซือชาวเยอรมันกล่าวตอบว่า “แบ่งเป็นสองพาร์ท สำหรับฤดูกาลนี้กับฤดูกาลที่แล้ว ฤดูกาลนี้มันไม่เหมือนกับฤดูกาลที่แล้วเพราะคุณภาพในเกมรุกของเรามันดร็อปลงพูดตรงๆ เพราะว่าในเกมนี้มีโอกาสหลายครั้งที่เราสามารถเปลี่ยนเป็นประตูได้แต่เราก็ยังทำไม่ได้ แต่ถ้าในเรื่องส่วนต่างของทีมตรงอื่นงานคุณภาพแตกต่างกันน้อยมาก อย่างบุรีรัมย์กับสุโขทัย ดูไม่ออกเลยว่าทีมใหญ่ทีมเล็กมีประตูขึ้นในช่วงวินาทีสุดท้าย เขาเลยมองว่ามันเขี้ยวกว่า เพราะฉะนั้นเขามองว่าในการทำงานของเขาฤดูกาลนี้มันยากขึ้นแน่นอนครับ ทำให้เค้าเครียดขึ้นแต่แฟนบอลก็น่าจะดูสนุกมากขึ้นเช่นกันครับ เพราะฉะนั้นเขาจะยอมรับความเครียด เราจะทำให้แฟนบอลดูบอลได้อย่างมีความสุขสนุกมากขึ้น”
ขอบคุณ Chainat Hornbill Football Club
