ศึก ไทยลีก 4 รอบแชมเปี้ยนส์ ลีก ประจำฤดูกาล 2019 ได้ฤกษ์ฟาดแข้งในสัปดาห์นี้ โดยเริ่มจากในกลุ่มบน ที่จะลงสนาม 14 กันยายน 2562 ทีมงาน SPS TH ขอพาไปรู้จักแต่ละทีมกันอีกครั้ง รวมถึงสังเวียนที่รอรับแฟนบอลทั้งเหย้าและผู้มาเยือน

 

อุตรดิตถ์ เอฟซี(แชมป์โซนเหนือ)

หนึ่งในสโมสรที่ป้องกันแชมป์และเข้ารอบแชมเปี้ยนส์ ลีก มา 2 ปีติดต่อกัน เก็บไปทั้งสิ้น 66 คะแนน จาก 27 นัด ชนะ 20 นัด เสมอ 6 แพ้ 1 ยิง 77 ประตู และเสียเพียง 16 ประตู ภายใต้การคุมทัพของกุนซือเพียงคนเดียว คือ "โค้ชอ้วก" วรกร วิจารณ์ณรงค์ ที่ทีมพันธมิตรจากไทยลีก 1 อย่าง ชัยนาท ฮอร์นบิล ส่งมาให้

อุตรดิตถ์ เอฟซี ถือเป็นทีมที่มีเกมรุกจัดจ้านทีมหนึ่ง ขุมกำลังน่าจับตา นำโดย กิลเบอร์ตี้ ซิลวา เนเวส ห้องเครื่องชาวบราซิล ที่ยิงไปแล้ว 13 ประตู รวมถึง ทาคุ อิโตะ แนวรุกชาวญี่ปุ่น และกองหน้าซุปเปอร์ซับอย่าง อนุชา พานทอง ที่เพิ่งย้ายเข้ามาในเลก 2 ก็อันตรายไม่แพ้กัน ด้านหลังบ้านนั้น จักรินทร์ ทองพันช่าง เซ็นเตอร์ฮาล์ฟวัย 21 ปี และ ธนกฤต เจียมอุดม ผู้รักษาประตูมากประสบการณ์ ก็ทำให้แฟนบอลดาบหักพิฆาตอุ่นใจเสมอมา

สนามแข่งขัน คือสนามกีฬาหมอนไม้ ใจกลางเมืองอุตรดิตถ์ แข่งขันเวลา 18.00 น. สนนราคาบัตรเข้าชม 60 บาท ทุกที่นั่ง ไม่ว่าจะเป็นทีมเหย้าหรือทีมเยือน โดยจะถูกใช้จำนวน 2 นัด ประกอบด้วย รับ วัดโบสถ์ ซิตี้ 28 กันยายน และ รับบ้านค่าย ยูไนเต็ด 6 ตุลาคม เนื่องจากอีก 3 นัดต้องออกเยือน

 

 

 

 

วัดโบสถ์ ซิตี้(รองแชมป์โซนเหนือ)

ถือเป็นทีมน้องใหม่ของ ไทยลีก 4 ที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมา ก็ประกาศศักดาทันทีด้วยการเข้ารอบแชมเปี้ยนส์ ลีก ภายใต้การคุมทัพของ "โค้ชเอก" เอกชัย พูลศรี ที่รับหน้าที่มาตั้งแต่ ไทยแลนด์ อเมเจอร์ลีก และถือเป็นการคุมทัพเต็มตัวครั้งแรกของเขาบนลีกอาชีพด้วย หลังเคยรับบทโค้ชแอนด์เพลเยอร์ให้ พังงา เอฟซี เมื่อฤดูกาล 2016 ทำผลงานกับ วัดโบสถ์ ซิตี้ เก็บ 58 คะแนน จาก 27 นัด ยิง 65 ประตู เสีย 24 ประตู

การมีผู้เล่นถึง 11 รายที่อายุเกิน 30 ปี นั้นสามารถพิสูจน์ได้แล้วว่าตลอดช่วงที่ผ่านมาไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ผู้เล่นที่น่าจับตามอง อาทิ สุทน กุลมัย, นริศ คล้ายทรัพย์ แนวรับจอมเก๋า รวมถึง อุเทน เล็กรัตน์ เจ้าพ่อลูกนิ่งประจำทีม, ณัฐวุฒิ เนื้อไม้ ดาวซัลโว 11 ประตู ขณะที่ผู้เล่นต่างชาติอย่าง เซลิโอ กิลเญร์เม่ ดา ซิลวา ก็กำลังเล่นเข้าขากับเพื่อนร่วมทีมได้เป็นลำดับ และยิงไปแล้ว 8 ประตู 

สนามแข่งขันใน 2 เกมแรก คือ นัดพบ นครราชสีมา ห้วยแถลง ยูไนเต็ด ในวันที่ 14 กันยายน และนัดพบ เกาะขวาง เอฟซี ในวันที่ 22 กันยายน จะแข่งขันที่สนามกีฬา อบจ.พิษณุโลก เวลา 18.00 น. ซึ่งมีอัฒจันทร์ทั้งหมด 3 ด้าน แต่ในเกมสุดท้ายกับ เมืองเลย ยูไนเต็ด 6 ตุลาคม นั้นยังต้องหาข้อสรุปเนื่องจากสนามต้องปิดปรับปรุง

 

 

 

 

เมืองเลย ยูไนเต็ด(แชมป์โซนตะวันออกเฉียงเหนือ)

เข้ารอบแชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นฤดูกาลที่ 3 ติดต่อกัน และมาในฐานะแชมป์โซนปีที่ 2 ติดต่อกัน ฤดูกาลนี้ได้ "โค้ชบู" ชำนาญ แพรขุนทด เข้ามารับบทกุนซือ จาก 24 นัด เก็บไป 55 แต้ม ชนะ 14 นัด เสมอ 4 แพ้ 3 ยิง 55 ประตู เสีย 15 ประตู

จากขุมกำลังที่ใช้ผู้เล่นไทยล้วนในเลกแรก เมื่อย่างสู่เลกที่ 2 ได้เสริมต่างชาติเข้ามา 3 ราย เป็นแนวรุกที่มีประสบการณ์ในลีกไทยมาแล้วทั้งหมด คือ ฟาบริซิโอ มาราบา, จาร์เดล คาปิสตราโน และ โช ดอง กิว โดยมี วิทยา ธนวัชรสันติ เป็นดาวซัลโวประจำทีมที 13 ประตู ทางด้าน อภิวัฒน์ หารใจ ห้องเครื่องวัย 20 ปี ก็ถือเป็นผู้เล่นอนาคตไกล ยิงไป 7 ประตู

สนามแข่งขัน คือสนามกีฬากลางอำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย ซึ่งห่างจากตัวอำเภอเมืองราว 20 กิโลเมตร แข่งขันเวลา 16.00 น. มีอัฒจันทร์เพียงฝั่งเดียว ประกอบด้วยอัฒจันทร์หลัก และอัฒจันทร์เสริม ราคาบัตรเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่ 40 บาท และเด็ก 20 บาท เท่านั้น ใช้แข่งขัน 3 นัด ในเกมรับ บ้านค่าย ยูไนเต็ด 14 กันยายน, รับ อุตรดิตถ์ เอฟซี 22 กันยายน และรับ เกาะขวาง เอฟซี 12 ตุลาคม

 

 

 

 

นครราชสีมา ห้วยแถลง ยูไนเต็ด(รองแชมป์โซนตะวันออกเฉียงเหนือ)

จากทีมที่หนีตายในฤดูกาลก่อน ทัพหัวจักรพิฆาต จากชายแดนโคราช สามารถเข้าป้ายรองแชมป์ ซิวตั๋วแชมเปี้ยนส์ ลีก ได้เป็นครั้งแรก ภายใต้การวางหมากของ "โค้ชน้อย" บัณฑิต จูมผา โดยได้ รณชัย สยมชัย ที่สนิทมักคุ้นกันดี เข้ามาผนึกกำลังในช่วงท้ายฤดูกาล แข่ง 24 นัด ชนะ 12 เสมอ 6 แพ้ 6 นัด เก็บ 42 แต้ม ยิง 41 ประตู แต่เสียถึง 33 ประตู

ดาวซัลโวประจำทีมคือทางด้าน อาลิว เช็ก กองหน้าร่างโย่ง เจ้าของผลงาน 14 ประตู ตามมาด้วย โอติส ซีโฟร์ ที่ลงสนามครบทุกนัดยิงไป 8 ประตู และนักเตะที่ยิงได้ทุกรูปแบบอย่าง นพรัตน์ อุไรแข 7 ประตู ขณะที่ อภิเดช เอติญัติ ริมเส้นวัย 21 ปี ที่ได้อยู่กับทีมต่อเนื่องจากฤดูกาลก่อน ก็ตอบแทนความไว้ใจของโค้ชได้ดีแม้จะยิงไปเพียง 1 ประตูกับ 1 แอสซิสต์ ก็ตาม

ด้านสนามแข่งขัน คือสนามภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา ความจุราว 3,000 คน บัตรราคา 50 บาท ทุกที่นั่ง แข่งขันเวลา 16.00 น. ใช้ในเกมรับ เมืองเลย ยูไนเต็ด 28 กันยายน และรับ อุตรดิตถ์ เอฟซี 12 ตุลาคม จำนวน 2 นัด

 

 

 

 

บ้านค่าย ยูไนเต็ด(แชมป์โซนตะวันออก)

หลังจากฤดูกาล 2018 ไปไม่ถึงดวงดาวในช่วงการคุมทีมของ "โค้ชบู" ชำนาญ แพรขุนทด ผู้บริหารได้ดึงตัว "โค้ชลิง" วิมล จันทร์คำ เข้ามารับงาน และก็ทำได้ตามเป้าหมายแรกคือคว้าแชมป์โซน สู่รอบแชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ด้วยสถิติ แข่ง 28 นัด ชนะ 19 เสมอ 9 แพ้ 3 นัด เก็บ 63 แต้ม ยิง 60 ประตู เสีย 19 ประตู

นอกจากศิษย์ก้นกุฏิหลายรายที่ วิมล จันทร์คำ ยกเช็ตมาช่วยงาน การเซ็นสัญญากับจอมเก๋าอย่าง ธาตรี สีหา ก็ถือเป็นดีลที่คุ้มค่าเช่นกัน ด้วยการทำไป 14 ประตู กับ 1 แอสซิสต์ โดยในทีมมีผู้เล่นถึง 6 รายที่ยิงไม่ต่ำกว่า 5 ประตู ถือว่าอันตรายในทุกจุด ผู้เล่นรายอื่นๆ ที่น่าจับตามอง อาทิ อังเดร ฮูม่า แนวรุกร่างเล็กชาวโตโก, เอนก ผูกกระแสร์ หรือจะเป็น ไมเคิ่ล เคน อดีตเด็กปั้นเลสเตอร์ ซิตี้


สำหรับรังเหย้าคือทางด้าน สนามหวายกรอง สเตเดี้ยม บริเวณโรงเรียนอนุบาลนานาชาติตากสินบ้านค่าย(วัดหวายกรอง) อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง มีความจุราว 1,300 ที่นั่ง เป็นแบบอัฒจันทร์น็อกดาวน์ทั้งหมด แข่งขันเวลา 16.00 น. ค่าบัตร 60 บาท ใช้ในเกมรับ นครราชสีมา ห้วยแถลง ยูไนเต็ด 22 กันยายน, รับ เกาะขวาง เอฟซี 28 กันยายน และรับ วัดโบสถ์ ซิตี้ 12 ตุลาคม

 

 

 

 

เกาะขวาง เอฟซี(รองแชมป์โซนตะวันออก)

เป็นเพียงสโมสรเดียวของกลุ่มนี้ ที่มีการเปลี่ยนแปลงกุนซือกลางคัน โดยเป็น "โค้ชชาย" สมชาย ทรัพย์เพิ่ม ที่เข้ามารับงานแทน "โค้ชอ๋อย" สุรพงษ์ กุลนรา แต่ผู้ช่วยยังคงเป็น "โค้ชโจ้" อุทัย สุริเมือง ที่พาทีมขึ้นมาจาก ไทยแลนด์ อเมเจอร์ลีก ผลงานรวม 28 นัด ชนะ 18 เสมอ 5 และแพ้ไป 5 นัด ยิง 51 ประตู เสีย 24 ประตู เก็บ 59 แต้ม

ฉัตรชัย นาควิจิตร สร้างความฮือฮาเมื่อเลือกย้ายมาซบทีมน้องใหม่อย่าง เกาะขวาง เอฟซี และสมดีกรีดาวซัลโว เขายิงไป 19 ประตู ถือว่ามากสุดในบรรดาดาวซัลโวของทีมแชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วยกัน ขณะที่ผู้เล่นรายอื่นๆถือว่าพกดีกรีมากันเพียบ ไม่ว่าจะเป็น รัฐพร แซ่ตั๋น ที่ยิง 8 ประตู, ชัยณรงค์ สมุทรฐา ที่ยิง 6 ประตู โดยมีผู้รักษาประตูดาวรุ่งอย่าง ญาณสิทธิ์ สุขเจริญ ที่ยืมจาก เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เฝ้าเสายึดมือ 1


สนามแข่งขันสำหรับรอบแชมเปี้ยนส์ ลีก คือสนามกีฬากลางจังหวัดจันทบุรี ที่โยกมาใช้แทนสนามมหาวิทยาลัยราชภัฎรำไพพรรณี เพื่อแข่งขันเวลา 18.00 น. โดยเก็บบัตรเข้าชมราคา 60 บาททุกที่นั่น สำหรับแฟนบอลทีมเยือนอัฒจันทร์มีหลังคาอยู่ทางด้านขวา ไร้กังวลเรื่องฝนฟ้าอากาศ ใช้ในเกมรับ อุตรดิตถ์ เอฟซี 14 กันยายน และรับ นครราชสีมา ห้วยแถลง ยูไนเต็ด 6 ตุลาคม

 

 

 

 

ขอบคุณภาพจาก สโมสรอุตรดิตถ์ เอฟซี, สโมสรวัดโบสถ์ ซิตี้, สโมสรเมืองเลย ยูไนเต็ด, สโมสรนครราชสีมา ห้วยแถลง ยูไนเต็ด, สโมสรเกาะขวาง เอฟซี