เฮดโค้ชการท่าเรือ เอฟซี รับตอนนี้มาไกลเกินคาดในบอลถ้วย เหลืออีกแมตช์เดียวขอคว้าแชมป์เพื่อสโมสร

หลังเกมที่ การท่าเรือ เอฟซี เล่นมาราธอน 120 นาที กับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ในรอบรองชนะเลิศ ฟุตบอลเอฟเอ คัพ โดยเหลือ 10 ตัวเนื่องจาก ศิวกร จักขุประสาท ถูกไล่ออกในนาที 88 ก่อนเสมอกันในเวลา 0-0 ทำให้ต้องดวลจุดโทษ และเอาชนะมาได้ 5-4

"โค้ชโชค" โชคทวี พรหมรัตน์ หัวหน้าผู้ฝึกสอน ได้กล่าวว่า "เป็นครั้งแรกที่ได้ทำทีมแกร่งแล้วสามารถได้เข้าชิง เป็นถ้วยที่ยิ่งใหญ่ด้วยถ้วยหนึ่ง ในส่วนของโค้ชแล้วก็รู้สึกตื้นตัน ขอบคุณทั้งประธานสโมสร และก็นักฟุตบอล รวมถึงแฟนบอลด้วยครับ"

"เด็กก็บาดเจ็บเยอะ อย่างที่เห็นว่าสนามมันแฉะ เพราะฉะนั้นในการเล่นแล้วกระทบกระทั่งกันเยอะเหมือนกัน ก็ต้องไปดูแลหลายคนครับ ประตูเองก็ต้องไปเช็กร่างกายด้วย รวมถึงซัวเรสเอง เกมเราต้องเจอในเดือนนี้อีกหลายเกมเลย"

สำหรับการพาทีมเข้าชิงได้ในรอบ 10 ปี อดีตกองหลังทีมชาติไทย เผยความรู้สึกว่า "แน่นอนว่าเป็นความรู้สึกที่ดี ในส่วนนี้ต้องให้นักกีฬา รวมถึงแฟนบอลด้วย เจ้าหน้าที่ทีมอะไรทั้งหมด เราเหลือ 10 คนตั้งแต่ก่อนหมดเวลา เพราะฉะนั้นทุกคนทำงานหนัก อันนี้ต้องให้เครดิตนักบอลไป ส่วนตัวผมเองแน่นอนอยู่แล้วว่าเราทำทีมใหญ่ ในครั้งแรกมันก็รู้สึกดี แต่มันต้องคิดค้น ต้องไปต่อ"

"ตอนแรกก็ไม่ได้คิดว่าจะมาได้ถึงขนาดนี้ พออยู่กับนักฟุตบอลแล้วผมถือว่านักฟุตบอลเป็นส่วนสำคัญอยู่แล้ว อันนี้ยกให้เครดิตนักบอล ถ้าเขาไม่ทำตามแท็กติก ไม่เล่นตามเรา ก็ไปไม่ได้ ทั้งต่างชาติเองด้วย ในส่วนรวมแล้วทุกคนทำงานได้ดี อย่างวันนี้เหลือ 10 คนเนี่ยทุกคนยังไม่ตื่นเต้นเลย ยังตั้งใจทำงานให้เต็มที่จนตัดสินด้วยการยิงลูกโทษ อันนี้คือจุดสำคัญที่ผมถือว่าผ่านได้เพราะนักฟุตบอล"

ผู้สื่อข่าวถามถึงเป้าหมาย หลังต้องโคจรไปพบ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ในรอบชิงชนะเลิศ โชคทวี ยืนยันชัดเจนว่า "แน่นอน เราเลยตรงนี้มา บอลแมตช์เดียวต้องหวังแชมป์แล้วหล่ะ แม้ว่าราชบุรีเองผมบอกแล้วว่าไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เป็นเรื่องที่ว่าแพ้-ชนะกันได้ เพราะฉะนั้นพวกผมต้องไปทำงาน ทำการบ้านกันอย่างหนัก ทำให้มันเป็นประวัติศาสตร์ของสโมสรด้วย อันนี้คือจุดสำคัญที่เราต้องไปต่อเนื่อง"