• 28 กันยายน 2019 at 22:06
  • 510
  • 0

พีที ประจวบ เอฟซี เจ๊า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 1-1 ก่อนแม่นโทษ ซีเกต ยิงปิดท้ายคว้าถ้วยเมเจอร์แรกของสโมสรมาครอง

 

การแข่งขันฟุตบอลลีกคัพ 2019 รอบชิงชนะเลิศ เมื่อวันเสาร์ที่ 28 กันยายน 2562 ที่ สนามเอสซีจี สเตเดียม “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์รายการนี้ 5 สมัย พบ “ต่อพิฆาต” พีที ประจวบ เอฟซี ที่เข้าชิงชนะเลิศรายการเมเจอร์ได้เป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์สโมสร

 

 

 

เริ่มเกมครึ่งแรก นาทีที่ 3 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้ฟรีคิกทางขวา กรกช วิริยอุดมศิริ เปิดบอลโค้งเข้าไปในเขตโทษ ณัฐพงษ์ ขจรมาลี นายด่านต่อพิฆาต ต้องออกมาชกบอลทิ้งพ้นอันตรายไปได้

 

 

 

นาทีที่ 6 ปราสาทสายฟ้า ได้เตะมุมทางขวา กรกช วิริยอุดมศิริ เปิดบอลด้วยเท้าซ้ายโค้งเข้าไปที่เสาแรก ศุภชัย ใจเด็ด วิ่งทะยานหวังจะเข้าไปโขกบอล ทว่า ณัฐพงษ์ ขจรมาลี ออกมาชกบอลทิ้งไปได้ก่อนที่กองหน้าร่างโย่งจะเข้าถึงบอล

 

 

 

นาทีที่ 15 ต่อพิฆาต ได้ลุ้นบ้าง เมารินโญ่ ได้บอลทางขวาก่อนจะเลี้ยงบอลเข้ามาหน้าเขตโทษแล้วตัดสินใจซัดบอลเต็มข้อบอลพุ่งเข้ากรอบประตู ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ตบบอลไว้ได้ก่อนตามไปรับได้อย่างไม่มีปัญหา

 

 

 

นาทีที่ 19 อันเดรส ตูเญซ วางบอลยาวจากแดนหลังไปทางขวาให้ ศศลักษณ์ ไหประโคน ดึงบอลลงก่อนจะจ่ายหักข้อเข้าเขตโทษถึง สุภโชค สารชาติ ได้แต่งบอลแล้วยิงเร็วติดบล็อกแนวรับต่อพิฆาตออกหลัง เป็นลูกเตะมุม กรกช วิริยอุดมศิริ เปิดเตะมุมไปที่เสาสอง พรรษา เหมวิบูลย์ ได้พุ่งตัวเข้าไปโหม่งบอลเหินข้ามคานออกไป

 

 

 

นาทีที่ 24 ปราสาทสายฟ้า ได้ฟรีคิกทางกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย รัตนากร ใหม่คามิ ยืนอยู่ที่บอลเดินเข้าไปซัดด้วยเท้าขวา บอลโค้งแล้วฮุบลงบนหลังคาตาข่ายแบบได้เสียว

 

 

 

นาทีที่ 42 สุภโชค สารชาติ เก็บบอลได้ทางขวาก่อนจะเลี้ยงมาหน้าเขตโทษแล้วปาดบอลออกมาทางซ้าย ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ได้วิ่งเข้ามากดเต็มข้อบอลพุ่งเรียดเฉี่ยวเสาไกลออกหลังไปนิดเดียว

 

 

 

นาทีที่ 45 พีที ประจวบ เอฟซี มาได้ฟรีคิกทางฝั่งซ้าย ภานุวัฒน์ จินตะ วางบอลยาวเข้าไปในเขตโทษ อัดนาน โอราโฮวัค วิ่งทะลุไปเก็บบอลได้ในเขตโทษ แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงล้ำหน้าไปก่อนแล้ว และจังหวะนี้ก็เป็นจังหวะสุดท้ายของครึ่งแรก ทำให้จบครึ่งแรก ปราสาทสายฟ้า เสมอกับ ต่อพิฆาต อยู่ 0-0

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

กลับมาครึ่งหลัง นาทีที่ 47 พีที ประจวบ เอฟซี ที่บุกน้อยกว่ามาได้ประตูขึ้นนำ เมารินโญ่ รับบอลจากเพื่อนร่วมทีมก่อนจะแตะหาจังหวะแล้วยิงที่เสาแรกเข้าประตูไป บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 0-1 พีที ประจวบ เอฟซี

 

 

 

นาทีที่ 57 ปราสาทสายฟ้า ได้เตะมุม กรกช วิริยอุดมศิริ เปิดบอลเข้ามาในเขตโทษ รัชพล นาวันโน โขกสกัดบอลไปโดน อัดนาน โอราโฮวัค บอลเด้งมาเข้าทาง อันเดรส ตูเญซ ง้างเท้าจะยิง แต่โดนผู้เล่นต่อพิฆาต ช่วยกันจิ้มบอลทิ้งออกมาได้ก่อน

 

 

 

นาทีที่ 73 ศศลักษณ์ ไหประโคน ขึ้นเกมทางขวาเปิดบอลจังหวะแรกติดกองหลัง ก่อนที่บอลจะเด้งมาถึงเจ้าตัวได้ตั้งป้อมเปิดบอลเข้ามาในเขตโทษอีกครั้ง บอลมาถึง ศุภชัย ใจเด็ด ได้ก้มหัวลงไปโขกบอลย้อนทางเสียบเสาเข้าประตูไป บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 1-1 พีที ประจวบ เอฟซี

 

 

 

นาทีที่ 90+3 ปราสาทสายฟ้า ได้เตะมุมทางซ้าย สุเชาว์ นุชนุ่ม เปิดบอลเข้าไปในเขตโทษบอลเลยไปถึง ฮาจิเมะ โฮโซไก ได้กระโดดยิง ทว่าโดนบอลไม่ค่อยดีทำให้คู่แข่งตามมาสกัดบอลโดน ฮาจิเมะ โฮโซไก ออกข้างไป ซึ่งก็เป็นจังหวะสุดท้ายของเกม ทำให้จบ 90 นาที เสมอ 1-1 ต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีกครึ่งละ 15 นาที เพื่อหาผู้ชนะ

 

 

 

กลับมาเล่นช่วงต่อเวลาพิเศษครึ่งแรก นาทีที่ 94 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้ฟรีคิกทางซ้ายของกรอบเขตโทษ สุเชาว์ นุชนุ่ม เปิดบอลเข้าไปในเขตโทษโดนโขกสกัดออกหลังไปได้

 

จงหวะดังกล่าว สุเชาว์ นุชนุ่ม ได้เปิดบอลอีกครั้งเข้ามาที่เสาแรก ศุภชัย ใจเด็ด โขกชงมาที่เสาสอง อันเดรส ตูเญซ ล้มตัวยิง อดุลย์ หมื่นสมาน ยืนอยู่บนเส้นประตูโหม่งบอลออกหลังไปได้

 

 

 

นาทีที่ 105 สุภโชค สารชาติ ได้กระชากลากเลื้อยขึ้นไปในแดนหน้าก่อนที่จะหาจังหวะง้างเท้ายิงติดบล็อกผู้เล่นประจวบ เอฟซี ทำให้จบช่วงต่อเวลาพิเศษครึ่งแรกยังคงไม่มีประตูเพิ่ม

 

 

 

มาเล่นช่วงต่อเวลาพิเศษ 15 นาทีหลัง นาทีที่ 112 ปราสาทสายฟ้า น่าจะได้ประตู สุภโชค สารชาติ รับบอลจากเพื่อนหลุดเข้าไปในเขตโทษจังหวะสุดท้ายยิงแฉลบ ณัฐพงษ์ ขจรมาลี ออกหลังไป

 

 

 

นาทีที่ 119 ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา รับบอลจาก อันเดรส ตูเญซ ก่อนจะแต่งบอลหาจังหวะง้างเท้ายิงหน้ากรอบเขตโทษบอลพุ่งไปเข้ามือ ณัฐพงษ์ ขจรมาลี รับบอลไว้ได้

 

 

 

จากนั้นไม่มีฝ่ายใดที่มีจังหวะลุ้นประตู ทำให้จบ 120 นาที บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เสมอ พีที ประจวบ เอฟซี 1-1 ต้องดวลจุดโทษหาผู้ชนะของเกมนี้

 

 

 

 

 

 

 

เข้าสู่ช่วงยิงจุดโทษหาผู้ชนะ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นฝ่ายยิงก่อน อันเดรส ตูเญซ ยิงเข้าประตูไป สมภพ นิลวงษ์ ยิงคนแรกของพีที ประจวบ เอฟซี โดน ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ปัดบอลไว้ได้ ปราสาทสายฟ้า นำ 2-1 คนที่ 2 ของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด รัตนากร ใหม่คามิ ยิงเข้าที่เสาขวามือของตัวเอง คนที่ 2 ของ พีที ประจวบ เอฟซี อดุลย์ หมื่นสมาน ยิงไม่พลาด สกอร์ยังเป็น ปราสาทสายฟ้า นำ 3-2

 

 

 

คนที่ 3 ของปราสาทสายฟ้า ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ยิงไปติดเซฟ ณัฐพงษ์ ขจรมาลี คนที่ 3 ของต่อพิฆาต รัชพล นาวันโน ยิงเข้าประตูไป สกอร์มาเสมอกันที่ 3-3 คนที่ 4 ของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ส่ง ศุภชัย ใจเด็ด ลงมายิงไม่พลาดขึ้นนำ 4-3 อาทยอม ฟิลิปโปสยาน ลงมายิงให้ พีที ประจวบ เอฟซี ไม่พลาดเช่นกันเสมอ 4-4

 

 

 

คนที่ 5 ของปราสาทสายฟ้า สุเชาว์ นุชนุ่ม ยิงเข้าไปไม่เหลือ ส่วน ประจวบ เอฟซี ส่ง ภูริทัต จาริกานนท์ ลงมายิงไม่พลาดเช่นกัน ยิงครบ 5 คนสกอร์มาเสมอกัน 5-5 ต้องยิงตัวต่อตัว ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน สังหารไม่พลาดส่ง ปราสาทสายฟ้า นำ 6-5 วีระวุฒิ กาเหย็ม ลงมายิงไม่พลาด ต่อพิฆาต ตีเสมอ 6-6

 

 

 

คนที่ 7 ของ ปราสาทสายฟ้า ศศลักษณ์ ไหประโคน ซัดเข้าไปนิ่มๆ ขึ้นนำ 7-6 สกุลชัย แสงโทโพธิ์ ลงมายิงไม่พลาด ประจวบ เอฟซี ตามมาเสมอที่ 7-7 คนที่ 8 ฮาจิเมะ โฮโซไก ส่งบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นำ 8-7 แต่ อมร ธรรมนาม ก็มายิงตีเสมอเป็น 8-8

 

 

คนที่ 9 กรกช วิริยอุดมศิริ ยิงข้ามคานออกไป ขณะที่ ซีเกต หมาดปูเต๊ะ ออกมายิงให้ พีที ประจวบ เอฟซี ไม่พลาดจึงเอาชนะไปในช่วงยิงจุดโทษ 7-8 สกอร์รวม 8-9 หลังเสมอกันในเวลา 1-1 ทำให้ พีที ประจวบ เอฟซี คว้าแชมป์ไปครอง รับรางวัล 5 ล้านบาท ส่วน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้เพียงรองแชมป์ รับรางวัล 1 ล้านบาท

 

 

 

 

รายชื่อผู้เล่นทั้ง 2 ทีม

 

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (ผู้รักษาประตู) (C), กรกช วิริยอุดมศิริ, อันเดรส ตูเญซ, พรรษา เหมวิบูลย์, นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม (สุเชาว์ นุชนุ่ม น.63), ฮาจิเมะ โฮโซไก, รัตนากร ใหม่คามิ, ศศลักษณ์ ไหประโคน, ศุภชัย ใจเด็ด, สุภโชค สารชาติ, ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา

 

 

พีที ประจวบ เอฟซี : ณัฐพงษ์ ขจรมาลี (ผู้รักษาประตู), ซีเกต หมาดปูเต๊ะ, อาทยอม ฟิลิปโปสยาน, อัดนาน โอราโฮวัค, อดุลย์ หมื่นสมาน (C), ภูริทัต จาริกานนท์, รัชพล นาวันโน, ภานุวัฒน์ จินตะ (อมร ธรรมนาม น.64), สุพจน์ จดจำ (วีระวุฒิ กาเหย็ม น.83), เมารินโญ่ (สมภพ นิลวงษ์ น.115), สิโรจน์ ฉัตรทอง (สกุลชัย แสงโทโพธิ์ น.75)

 

 

 

 

ช่างภาพ : มานะ ภู่ทอง