ผจก.วัดโบสถ์ ซิตี้ ยกย่องหัวจิตหัวใจลูกทีมทุกคนที่สู้จนพลิกสถานการณ์กลับมาเป็นแชมป์ในท้ายที่สุด รับเกมตึงเครียดและเต็มไปด้วยดราม่า ชนิดที่ต้องจำไปอีกนาน เชื่อปีหน้าแฟนบอลเข้าสนับสนุนทีมเพิ่มขึ้นอีก

 

 

วัดโบสถ์ ซิตี้ ไล่ตามตีเสมอ ปัตตานี เอฟซี นาทีท้ายรวมผล 2 นัดเสมอ 2-2 ทำให้เกมต้องยื้ดเยื้อถึงช่วงต่อเวลาก็ยังไม่สามารถหาผู้ชนะได้กระทั่งยิงจุดโทษเป็นฝั่งเจ้าถิ่นที่สถานการณ์เป็นรองก่อน แต่ท้ายที่สุดก็เอาชนะไปได้ด้วยสกอร์รวม 7-6 คว้าแชมป์ไทยลีก 4 รอบชิงชนะเลิศไปครองอย่างยิ่งใหญ่

 

 

ด้าน “บิ๊กโก้” นวัฒน์ธัม จันทนุปาน ผู้จัดการทีม “หนูนาจอมโหด” วัดโบสถ์ ซิตี้ เผยกับสื่อ SPSTH หลังเกมดราม่าที่มีครบทุกรสชาติ “พูดไม่ออกครับ ต้องยอมรับหัวจิตหัวใจของลูกทีมทุกคน ที่สู้จนนาทีสุดท้ายจริงๆ เพราะว่าเกมมันเกร็งตลอด ถึงแม้เราจะได้อเวย์โกลมาจริง แต่เวลามันยังเหลือ และที่เรากลัวที่สุดคือโดนนำก่อน โมเมนตั้ม มันจะเปลี่ยน แล้วมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ มันน่าอึดอัดมากจนกระทั่งวินาทีที่เราตีเสมอ เราก็คิดว่าเราจะกลับมาได้แล้ว เพราะตัวผู้เล่นก็เหนือกว่า แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายอีก จนมาถึงฎีกา เราไม่เคยซ้อมจุดโทษกันมาเลย ไม่เคยเลย และที่ผ่านมาในลีกทั้งหมดเราได้จุดโทษ 4 ลูกเรายิงไม่เข้าเลยด้วย”

 

 

“ก็เหมือนกับตอนที่เราได้เลื่อนชั้น อเมเจอร์ สถานการณ์มันเป็นแบบนี้เลย ก็วินาทีท้ายแบบนี้ แต่วันนั้นเราจบแค่รองแชมป์ แต่วันนี้มีมิติใหม่เกิดขึ้นคือการเป็นแชมป์ของเรา ก็ต้องขอบคุณทุกคนที่อยู่เบื้องหลังทุกคน ขอบคุณแฟนบอลทุกคน เรายังมีงานหนักกันต่อในไทยลีก 3 ปีหน้าก็ฝากให้กำลังใจเรากันต่อเนื่องครับ”

 

 

สื่อ SPSTH ถามต่อถึงยอดแฟนบอลที่เข้าชมเกมนัดนี้ที่มีกว่า 1,500 คนร่วมเป็นสักขีพยาน โดยทาง ผจก.วัดโบสถ์ ซิตี้ เชื่อว่าหลังเกมที่เต็มไปด้วยเรื่องราวนี้แฟนบอลจะตามให้ความสนใจทีมเพิ่มขึ้นอีก “พอใจครับกับแฟนบอลที่เข้ามาให้กำลังใจนัดนี้ เราไม่ได้คาดหวังว่ารูปเกมมันจะออกมาเอนเตอร์เทนขนาดนี้ แต่จังหวะของฟุตบอลมันก็ทำให้เกมนี้มีครบรส ทั้งดีใจ เสียใจ ก็เชื่อว่าความสนุก บรรยากาศแบบนี้จะช่วยให้แฟนบอลสนใจ และเข้ามาชมเกมมากขึ้นในปีหน้า”