• 9 กุมภาพันธ์ 2020 at 15:50
  • 2520
  • 0

สัญชัย นามเขต ลมกรดทีมชาติไทย ดีกรีเหรียญเงินซีเกมส์ ครั้งที่ 30 คว้าแชมป์มาราธอนคนไทย ในการแข่งขันวิ่งระดับโลก “บุรีรัมย์ มาราธอน 2020 พรีเซนเต็ดบาย เครื่องดื่มตราช้าง” ปีที่ 4 ได้รับถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา พร้อมทุบสถิติเมื่อปีที่แล้ว ของแชมป์เก่า อย่าง บุญถึง ศรีสังข์ ขณะที่แชมป์โอเวอร์ออลเป็นของลมกรดจากเคนย่า คอร์เนลเลียส กิบิวอทท์ เชปกอก

 

 

 

การแข่งขันวิ่งระดับโลก “บุรีรัมย์ มาราธอน 2020 พรีเซนเต็ดบาย เครื่องดื่มตราช้าง” ปีที่ 4  จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่สมกับเป็นการจัดมาราธอนระดับโลก เกรด “บรอนซ์ เลเบิล” แห่งแรกของไทย โดยในวันที่ 9 ก.พ. ออกสตาร์ทจากสนามแข่งรถ ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต และเข้าเส้นชัยสนามฟุตบอลช้างอารีน่า แข่งขันทั้งสิ้น 3 ระยะทาง ได้แก่ ระยะมาราธอน 42.195 กิโลเมตร, ระยะฮาล์ฟมาราธอน 21.1 กิโลเมตร, ระยะมินิมาราธอน 10 กิโลเมตร

โดยมี นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานเปิดการแข่งขันและมอบรางวัลแก่นักกีฬา ร่วมกับ นายยุทธศักดิ์ สุภสร  ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย,  นายดำรงชัย เนรมิตตกพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์, นายสุรพล อุทินทุ ผู้อำนวยการสำนักประสานงานภายนอก บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน)  และคณะผู้บริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด, บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์, สายการบินแอร์เอเชีย, บริษัทไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด, บริษัท วอริกซ์ สปอร์ต จำกัด, บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด(มหาชน), บริษัทซีพี แรม จำกัด (เลอแปง), บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน)

 

 

 

สำหรับการแข่งขันรายการนี้เป็นสนามฟูลมาราธอน ระดับบรอนซ์เลเบิลแห่งแรกของเมืองไทย ที่ได้รับการรับรองโดยสหพันธ์กรีฑานานาชาติ ภายใต้แนวคิด “YOUR ULTIMATE DESTINATION-สวรรค์ของนักวิ่ง” มีนักวิ่งเข้าร่วมแข่งขันกว่า 30,120 คน แบ่งเป็นมาราธอน (Marathon) 7,917 คน ฮาล์ฟมาราธอน (Half-Marathon) 10,836 คน มินิมาราธอน (Mini-Marathon) 5,169 คน ฟันรัน(Fun run) 6,198 คน โดยมี นักวิ่งระดับอีลีทจากทั่วโลกเข้าร่วมการแข่งขัน รวมทั้งสิ้น 29 คน ศิลปินดารา ได้แก่ แมทธิว ดีน, คู่รักสายฮา แหม่ม สุริวิภา- บ๊อบบี้ และ “ลิฟท์ สุพจน์ -หญิง นราวัลย์, ลิลลี่ แม็คกร๊าธ ฯลฯ รวมทั้งนักวิ่งทีมชาติไทย สัญชัย นามเขตและ ลินดา จันทะชิต นักวิ่งสาวไทยที่เข้าเส้นชัยคนแรกในประเภทฟูลมาราธอน

 

 

 

     ผลการแข่งขัน ระยะมาราธอน 42.195 กิโลเมตร ผู้ที่เข้าเส้นชัยคนแรก ฝ่ายชาย ได้แก่ คอร์เนลเลียส กิบิวอทท์ เชปกอก จากเคนย่า ได้แชมป์ในรุ่น 18-29 ปีชาย ด้วยเวลา 2.11.46 ชม.ที่ 2 บริมิน มิซอย นักวิ่งอีลิทจากเคนย่า 2.12.19 ชม. ที่ 3 อิวานส์ แซมบู นักวิ่งอีลิทจากเคนย่า  2.13.16 ชม. ส่วนแชมป์คนไทย ได้แก่ สัญชัย นามเขต ดีกรีเหรียญเงินซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ฟิลิปปินส์ 2.26.54 ชม.คว้าแชมป์คนไทยเป็นปีแรกและได้ที่ 2 รุ่น 30-39 ปี ได้รับถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา

 

    ฝ่ายหญิง แชมป์โอเวอร์ออลเป็นของ อิมมาคูเลท เชอร์มูไต จาก อูกันดา ที่ได้แชมป์รุ่น 30-39 ปี ทำเวลาได้ 2.32.41 ชม. ที่ 2 นิกิสต์ เดสต้า นักวิ่งอีลิท จากเอธิโอเปีย 2.32.56 ชม. ที่ 3 ฮัลเลน เจบคูร์แกท นักวิ่งอีลิทจากเคนย่า 2.33.25 ชม. ส่วน ลินดา จันทะชิต ทำเวลาได้ 2.54.50 ชม.ได้แชมป์คนไทยอีกสมัย และได้แชมป์ รุ่น 18-29 ปี

 

 

 

        ด้าน สัญชัย นามเขต ดีกรีเหรียญเงินซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ฟิลิปปินส์ ซึ่งได้แชมป์มาราธอนเป็นปีแรก กล่าวว่า พอใจมากกับการได้แชมป์รายการนี้ สำหรับมาราธอนลงแข่งเป็นปีแรก ก็ได้แชมป์แล้วภูมิใจมากที่ได้รับถ้วยพระราชทานความรู้สึกแตกต่างจากตอนได้เหรียญเงินซีเกมส์ ที่ฟิลิปปินส์ สนามที่บุรีรัมย์นี้ เส้นทางโอเค บรรยากาศดี แต่ผมประมาทตัวเองไปหน่อยช่วงแข่งขัน ตอนสตาร์ทออกตัวเร็วไปหน่อย ช่วงปลายเลยแผ่วๆ ส่วนแมตช์ทีมชาติ รอแข่ง เอเชียนบีช เกมส์ ที่จีน เป็นเจ้าภาพยังไม่แน่ใจ ว่าจะเลื่อนการแข่งขันหรือไม่ เพราะมีปัญหาเรื่องไวรัสโคโรน่า

 

 

 

“สำหรับบุรีรัมย์มาราธอน ผมลงแข่งทุกครั้ง ก่อนหน้านี้แข่งฮาล์ฟมาราธอน ได้แชมป์ 3 สมัยติดต่อกัน ส่วนมาราธอนที่ผ่านมา แชมป์จะเป็น บุญถึง ศรีสังข์ เป็นชาวบุรีรัมย์ถือเป็นเจ้าของบ้านด้วย แต่ผมเป็นคนสุรินทร์ บ้านใกล้เรือนเคียง รู้สึกดีใจมากที่ได้แข่งรายการนี้ ที่ถือเป็นอีกหนึ่งรายการที่ดีที่สุดในไทย และครั้งนี้ ทำเวลาได้ 2.26.54 ชม. ดีกว่าเวลาที่พี่บุญถึง ทำไว้ 2.29 ชม. โดยก่อนหน้านี้ ผมเพิ่งทำลายสถิติตัวเอง ในการแข่งขันวิ่งผ่าเมือง แต่การวิ่งต่อเนื่อง หลายรายการ ทำให้ ร่างกายระบม แต่เวลาที่ทำได้กลับออกมาดี ยิ่งรายการนี้แข่งมาราธอนเป็นปีแรก และได้แชมป์ด้วย”

 

 

 

 ระยะฮาล์ฟมาราธอน 21.1 กิโลเมตร ฝ่ายชาย  ที่ 1 แมทธิว แซมเปรู 1.03.46 ชม. ได้แชมป์รุ่น 18-29 ปี ที่ 2 เคนเนธ กิเบธ โรโน 1.05.35 น.ที่ 3 อีซาคีล เยโก 1.07.44 ชม. ส่วน “บิ๊ก” ณัฐวุฒิ อินนุ่ม คู่แฝดทีมชาติชุดซีเกมส์ และ ได้แชมป์คนไทยคนแรกด้วยเวลา  1.07.58 ชม.

 

 

 

ฝ่ายหญิง ที่ 1 เอสเธอร์ คาริมี 1.16.26 ชม. ที่ 2 อลิซ คอยกี 1.17.33 ชม. ที่ 3 อีไฮนาห์ มูตาฮี 1.19.36 ชม. ส่วนแชมป์คนไทย “ฝน” ณัฐธยาน์ ธนรณวัฒน์ อดีตทีมชาติไทย ทำเวลาได้ 1.24.46 ชม.

 

 

 

ด้าน “บิ๊ก” ณัฐวุฒิ อินนุ่ม นักวิ่งทีมชาติไทยแฝดผู้พี่ เปิดเผยว่า ดีใจมาก ที่ได้แชมป์คนไทยคนแรกของฮาล์ฟ มาราธอน ก่อนหน้านี้ ได้รับใช้ทีมชาติในการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ฟิลิปปินส์ แต่ได้ที่ 6 ซีเกมส์ ส่วนบุรีรัมย์ มาราธอน แข่งมาทุกครั้ง ได้แชมป์มินิมาราธอนแต่ครั้งที่แล้ว ป่วยไม่ได้มาแข่ง แต่ก่อนหน้านี้ได้แชมป์มาตลอดคว้าแชมป์มาเป็นเวลา 2 ปีติดต่อกัน ในประเภทมินิมาราธอน ปีนี้เป็นปีแรกที่ได้มาแข่งในประเภทฮาล์ฟมาราธอน ชอบบรรยากาศการแข่งขันรายการนี้มากๆ

 

 

 

ระยะมินิมาราธอน 10 กิโลเมตร ฝ่ายชาย ที่ 1 เจมส์ การันจา 30.13 น.ที่ 2 ฟรานซิส นาดูตา 30.49 น. ที่ 3 อีนอค คีเกน 31.14 น. แชมป์คนไทย “เบล” ณัฐวัฒน์ อินนุ่ม แฝดผู้น้อง ทำเวลาได้ 31.28 น.

 

 

 

ฝ่ายหญิง ที่ 1 วรพรรณ นวลศรี นักวิ่งทีมชาติไทย 38.29 น. ที่ 2  สุวณี คำชนะ 39.23 น.ที่ 3 สุณีกา ปรีชาโปร่ง 40.11 น.

 

 

 

ด้าน  “เบล” ณัฐวัฒน์ อินนุ่ม ฝาแฝดผู้น้อง กล่าวว่า ปีนี้ดีใจมาก ที่ได้ที่ 1 มินิมาราธอน ในบุรีรัมย์มาราธอนครั้งนี้ ได้แชมป์มาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งก่อนและครั้งนี้ สำหรับบุรีรัมย์มาราธอนลงแข่งมา 4 ครั้งแล้ว บรรยากาศดีมากๆ