มูลนิธิตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จับมือสมาคมประวัติศาสตร์ฟุตบอลแห่งประเทศไทย มอบรางวัลโครงการเชิดชู ผู้ทำความดีเพื่อสังคมปี 2562

รางวัล พลตรีสำเริงไชยยงค์ สาขาการส่งเสริมกีฬา ให้แก่ 3 บุคคล เบื้องหลังสร้างนักเตะเยาวชนไทย ได้แก่ นายแพทย์ทรง วงษ์วานิช พ่อพระแห่งท่าเรือ อดีตผู้ร่วมบุกเบิกสโมสรการท่าเรือแห่งประเทศไทย, อ.พรชัย มั่งประสิทธิ์ นักปั้นภูธร และสุนทร นาเมืองรักษ์ โค้ชคลองเจ้า

ดร.กฤษฎา เสกตระกูล รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลโครงการเชิดชู ผู้ทำความดีเพื่อสังคมปี 2562 รางวัล พลตรีสำเริงไชยยงค์ สาขาการส่งเสริมกีฬา ร่วมด้วย ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง นายกสมาคมประวัติศาสตร์ฟุตบอลแห่งประเทศไทย ที่ห้องสโมสรการท่าเรือแห่งประเทศไทย

กิจกรรมครั้งนี้ ทางมูลนิธิตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้ร่วมกับสมาคมประวัติศาสตร์ฟุตบอลแห่งประเทศไทย มอบรางวัลพลตรีสำเริงไชยยงค์ ให้กับผู้ที่ทำความดีเพื่อสังคมสาขาการส่งเสริมกีฬา ประจำปี 2562 3 คน ได้แก่ นายแพทย์ทรง วงษ์วานิช พ่อพระแห่งท่าเรือ อดีตผู้ร่วมบุกเบิกสโมสรการท่าเรือแห่งประเทศไทย, อ.พรชัย มั่งประสิทธิ์ นักปั้นภูธร อดีตนักฟุตบอลเยาวชนทีมชาติไทย ที่ใช้เวลานอกราชการสร้างเยาวชนมานานกว่า 15 ปี จนหลายคนก้าวขึ้นสู่ทำเนียบทีมชาติ ปัจจุบันเป็นครูสอนวิชาสุขศุกษาและพลศึกษา ที่รร.เทศบาล 1 วัดพระงาม จ.นครปฐม และ สุนทร นาเมืองรักษ์ โค้ขคลองเจ้า พ่อค้าที่ใช้เงินส่วนตัวฝึกสอนเยาวชน ก่อนจบทีไลเซ่นและจัดอบรมโค้ขจิตอาสาท้องถิ่น เป็นผู้ก่อตั้งการแข่งขันฟุตบอลเยาวชนลีกกกาฬสินธุ์ และผู้ก่อตั้งชมรมโค้ชติตอาสาแห่งประเทศไทย

ดร.กฤษฎา เสกตระกูล รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ทางมูลนิธิตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ร่วมกับ 7 องค์กร จัดโครงการเชิดชู ผู้ทำความดีเพื่อสังคมในด้านต่างๆ เป็นเวลา 13 ปี ในสาขาการส่งเสริมกีฬา ได้ร่วมมือกับสมาคมประวัติศาสตร์ฟุตบอลแห่งประเทศไทย เพื่อค้นหาต้นแบบของคนดี โดยเฉพาะ ด้านกีฬา บุคคลที่เสียสละสร้างสนับสนุนเยาวชน ให้เล่นกีฬา เพื่อให้มีร่างกายแข็งแรงจิตใจดีจนสามารถพัฒนาเป็นนักกีฬาทีมชาติ

ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง นายกสมาคมประวัติศาสตร์ฟุตบอลแห่งประเทศไทย กล่าวว่า โครงการนี้เป็นกำลังใจให้กับผู้ทำคุณประโยชน์ให้กับวงการฟุตบอล เชิดชูคนที่ทำความดีเพื่อสังคม สร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ ที่จริงคนแบบนี้ มีเยอะมาก ในสังคมไทย ถ้าพบเห็นบุคคลที่ทำคุณความดีให้กับสังคมไทยสามารถส่งข่าวมาได้กับทางสมาคมฯ

สำหรับ นายแพทย์ทรง วงษ์วานิช กล่าวว่า ผมก้าวเข้าสู่วงการฟุตบอล เป็นเวลากว่า 50 ปี โดยเฉพาะ สโมสรการท่าเรือแห่งประเทศไทย ผมทำหน้าที่ตั้งแต่แพทย์ประจำทีม จนถึงผู้จัดการทีม ดีใจมากครับ ที่ได้รับรางวัลนี้ ผมทำเพื่อวงการฟุตบอลมา 40-50 กว่าปี แล้ว จนเกษียณอายุ ถึงแม้ตอนนี้ผมมีอายุมากแล้ว แต่ผมจะทำเพื่อวงการฟุตบอลต่อไป มีหนทางไหนหรือวิธีไหนก็ตาม ผมพร้อมจะช่วยเหลือวงการฟุตบอลเต็มที่ ผมจะสนับสนุนทุกด้านตลอดไปครับ

อ.พรชัย มั่งประสิทธิ์ เปิดใจว่า รางวัลนี้มี คุณค่าทางจิตใจ เป็นโครงการที่ได้เห็นคุณค่าความเสียสละของผม ผมจะรักษาคุณความดีตลอดไป ตลอด 30 กว่าปีที่ทำเพื่อกีฬาฟุตบอล ผมเติบโตมาจากฟุตบอล เมื่อผมได้มีโอกาสมาเป็นข้าราชการแล้ว และเมื่อมีโอกาสก็ตั้งใจจะทำเพื่อคนที่ไม่มีโอกาส อยากส่งต่อโอกาสแบบที่ผมเคยได้รับมาตลอด ด้วยการสร้างนักฟุตบอลเยาวชน ผมไม่มีเป้าหมายมีแต่ปัจจุบัน ผมจะให้โอกาสเด็กด้อยโอกาส ที่รักกีฬาฟุตบอล

สุนทร นาเมืองรักษ์ กล่าวว่า รางวัลนี้เป็นรางวัลและความภาคภูมิใจสูงสุดที่ได้รับ ดีใจมาก รู้สึกหายเหนื่อย หลังจากทุ่มเทแรงกายและแรงใจ ผมเดินทางข้ามจังหวัดเพื่อมาสอนฟุตบอล บ้านพักอยู่ปทุมธานี แต่ผมมาสอนที่ฉะเชิงเทรา ก็มีการท้อถอยบางครั้ง เมื่อเกิดปัญหา แต่ก็กลับมาสู้ต่อเพื่อเด็กๆ เด็กที่ผมสอนให้เล่นฟุตบอล ส่วนใหญ่ 90 เปอร์เซ็นต์ ครอบครัวไม่สมบูรณ์ มีปัญหาด้านครอบครัว และค่อนข้างขาดแคลนทุนทรัพย์ ผมใช้ฟุตบอลเพื่อขัดเกลาเยาวชนเหล่านี้