จเด็จ มีลาภ เปรียบ แนวรับ บีจีพียู เหมือนกับกำแพง ที่เราไม่สามารถผ่านไปได้ ทำ การท่าเรือ เอฟซี ออกสตาร์ทคืนลีกแบบมือเปล่า 2 นัดติด

การท่าเรือ เอฟซี มือเปล่าคาบ้าน 2 นัดติด หลังโดน บีจี ปทุม ยูไนเต็ด บุกลูบคมถึงถิ่นโดยประตูโทนในเกมนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นเกมจาก เจนรบ สำเภาดี

จเด็จ มีลาภ กุนซือการท่าเรือ เอฟซี กล่าวหลังเกมว่า “เราเล่นแบบระวังหน้าระวังหลัง เพราะแผงหลังตัวหลักๆ เราเจ็บหมด เรารู้อยู่แล้วว่าบีจีพียู มารับแล้วโต้ พอเขาทำประตูได้เร็วมันก็เข้าทางเขาไปหมด และถอยลงไปรับกันแน่นขึ้นอีก เราก็พยายามสู้เต็มที่ เล่นเพื่อทีม เล่นเพื่อแฟนบอล แต่เราจบเกมไม่ได้”

“เซอร์เด็จ” พูดถึงอาการเจ็บของ ทศพล ลาเทศ ที่ต้องส่ง ทิตาธร อักษรศรี ลงมาแทนในนาทีที่ 58 “ก็ต้องเช็คอาการเขามีอาการกระตุก มันทำให้แผงหลังเรายิ่งมีตัวเจ็บไปอีก ก็ต้องดูว่าจะปรับอย่างไร ก็มันเป็นปัญหาในแนวรับเราตอนนี้ ส่วนเกมรุก โบนีญ่า ลงได้สักพักก็กล้ามเนื้อกระตุก ก็อาจต้องพักไปอีก คือเราก็เช็คความฟิตเขาตลอด อย่างเกมนี้เราก็ไม่ได้ให้เขาสตาร์ทตัวจริง เก็บเอาไว้เป็นสำรองไว้ใช้ยามที่คู่ต่อสู้อ่อนล้า ซึ่งตลอดช่วงการซ้อมเขาก็ทำได้ดี ก็ไม่คิดว่าจะเกิดอาการเจ็บขึ้นแบบนี้”

“เกมนี้เราพยายามเจาะทั้งตรงกลาง ด้านข้าง แต่เกมรับ บีจีพียู เหนียวแน่น เขาไม่ขึ้นเลย ก็ยอมรับว่าเขาเหนี่ยวแน่นจริง เหมือนกับกำแพง ที่เราไม่สามารถผ่านไปได้ คือเขาลงไปรับ 7-8 คน เป็นงานยากจริงๆ ที่จะเจาะเข้าไป”

กุนซือการท่าเรือ ยังพูดถึงการที่ทีมไม่สามารถเก็บแต้มได้เลยจากการคืนไทยลีก 2 นัด โดยเป็นการเล่นในถิ่นทั้งหมดด้วยว่า “กดดันแน่นอน มันไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง”