น้องใหม่ พราม แบงค็อก เปิดตัวสโมสรลุยลีกอาชีพปีแรก โค้ชจุ่นนั่งประธานควบกุนซือ ยึดเยาวชนไทยเบฟเป็นหลัก

 

วันอาทิตย์ที่ 27 กันยายน 2563 เวลา 16.00 น. ณ สนามศูนย์ฝึกฟุตบอลไทยเบฟฯ(เหม่งจ๋าย) ซอยประชาอุทิศ 23 เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ สโมสรฟุตบอลพราม แบงค็อก ได้ฤกษ์ทำการเปิดตัวสโมสรเพื่อสู้ศึก ไทยลีก 3 โซนกรุงเทพปริมณฑล หลังซื้อสิทธิ์การทำทีมมาจาก สโมสรฟุตบอลแอลพีซี แบงค็อก เอฟซี ที่ประสงค์ขอพักทีม

 

งานในวันนี้นำโดย ดร.จตุพร ประมลบาน ประธานสโมสร พร้อมแขกผู้มีเกียรติ อาทิ คุณณรงวิทย์ อุ่นแสงจันทร์ ผู้อำนวยการโครงการช้างเผือกโรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี ในฐานะประธานที่ปรึกษาสโมสร, มร.เคลวินห์ โคห์ กรรมการบริหารโรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์(SISB) ในฐานะผู้สนับสนุนหลัก, คุณกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้ก่อตั้งโครงการไทยเบฟ ฟุตบอล อะคาเดมี่, คุณต่อพันธ์ ตู้จินดา รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายสื่อสารองค์กร ธนาคารซิตี้แบงก์, คุณโรจนสิทธิ์ มีนิจสิน รองผู้อำนวยการโครงการไทยเบฟ ไทยทาเล้นท์, คุณธนศักดิ์บวร จิตติพิมพ์ จากผลิตภัณฑ์เสื้อผ้ากีฬา NEXT, คุณองอาจ ฉัตรชัยพลรัตน์ โฆษกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และรองประธานสโมสรขอนแก่น เอฟซี, ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง นายกสมาคมประวัติศาสตร์ฟุตบอลแห่งประเทศไทย ฯลฯ พร้อมเยาวชนในโครงการ และผู้ปกครอง ที่ให้ความสนใจเข้าร่วมอย่างคับคั่ง

 

สำหรับที่มาของชื่อ สโมสรฟุตบอลพราม แบงค็อก นั้น พราม(Prime) มีความหมายโดยรวมว่า "เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุด" ส่วนคำว่า แบงค็อก เกิดจากแนวคิดการจับมือร่วมกับสมาคมกีฬากรุงเทพมหานคร เพื่อพัฒนานักฟุตบอลเยาวชนภายใต้แนวคิด "Home Grown Players" ซึ่งจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้านี้

 

กิจกรรมในงานเป็นการเปิดตัวประธานสโมสรอย่าง "โค้ชจุ่น" ดร.จตุพร ประมลบาน ซึ่งควบหน้าที่หัวหน้าผู้ฝึกสอนด้วย พร้อมเปิดตัวทีมงานสตาฟฟ์ ที่นำโดย อนุชศรา หมายเจริญ นักฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย, นักกีฬาทีมชาย สำหรับลุยศึกไทยลีก 3 ที่มาใช้ชุดแข่งขันเหย้าและเยือน รวมถึงตัวแทนนักกีฬาทีมหญิงที่กำลังร่วมแข่งขันฟุตบอลไทยวีเมนส์ ลีก 2020 รอบเพลย์ออฟ ก่อนเชิญแขกผู้มีเกียรติร่วมพูดคุยแสดงความรู้สึกต่อการเกิดขึ้นของสโมสรน้องใหม่นี้

 

ทาง ดร.จตุพร ประมลบาน เปิดเผยว่าสโมสรฟุตบอลทีมนี้เกิดขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนของโครงการไทยเบฟ ฟุตบอล อะคาเดมี่ ได้มีเวลาแสดงฝีเท้า และต่อยอดสู่การเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ซึ่งประจวบเหมาะกับสโมสรแอลพีซี แบงค็อก เอฟซี นั้นไม่ประสงค์จะส่งทีมเข้าร่วมการแข่งขันในฤดูกาลนี้ จึงตัดสินใจซื้อมาบริหารร่วมแข่งขัน ไทยลีก 3 ส่วนเป้าหมายนั้นเบื้องต้นขอเพียงนักฟุตบอลทุกคนเล่นได้อย่างสนุก ซึ่งตนเองไม่ได้มีความกดดันอะไรเนื่องจากในฤดูกาลนี้ไม่มีตกชั้น เชื่อว่าเยาวชนเหล่านี้จะมีระดับฝีเท้าและประสบการณ์ที่แกร่งขึ้นในฤดูกาลถัดไป พอที่จะสู้เพื่ออยู่รอดในลีกอาชีพ และพัฒนาทีมสู่ระดับที่สูงขึ้นต่อไป

 

สำหรับการแข่งขันในเลกแรก สโมสรฯส่งรายชื่อผู้เล่นทั้งหมด 26 ราย ส่วนใหญ่เป็นเยาวชนจากโครงการตลอดช่วงที่ก่อตั้งมากว่า 16 ปี ผสมกับเยาวชนฝีเท้าดีจากภายนอกอีกบางส่วน ประกอบด้วย กิตติณัฐ นวมนิ่มอนงค์, วัชรพงศ์ เนื่องพระแก้ว, ชนม์เสถียร พูลวรลักษณ์, วรภพ ทวีสุข, ศิรยุทธ กระจายศรี, สิริศักดิ์ พรหมดวง, ธีรศักดิ์ เผยพิมาย, ณัฐชนน สร้อยจิตร, กานต์ อ่ำขำ, กฤษฎา โอทาตะ, ศิรวุฒิ เก่งนอก, กิตติศักดิ์ มีทอง, นิติภูมิ ฉิมสอาด, อัฟกานต์ เจ๊ะมะสาแล, ปราษิณ คล้ายทองคำ, ชัยธัช มณีอินทร์, กฤษดา สาครเจริญ, เมธัส ทองเนื้อห้า, จักรกฤษ รัตนวัน, ชัยวัฒน์ กลิ่นเพ็ง, อัฐษฎา ดอกกุลบุตร, ณภัทร สุขเอี่ยม, ยุทธสิทธิ์ จาดเมือง

 

ไม่เพียงผู้เล่นไทยเท่านั้น พราม แบงค็อก ยังใช้ผู้เล่นต่างชาติที่มีประสบการณ์สูงในลีกไทยมาช่วยประคองทีม และสร้างสีสัน คือทางด้าน อมาดู ทิดจานี, อบาการ์ มูสซ่า ในตำแหน่งกองหน้า และ เอ็นเกียมบัส เฟอร์ดินานด์ ในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ โดยทั้งหมดมีสัญชาติแคเมอรูน และมีครอบครัวอยู่ในประเทศไทย

 

 

เบื้องต้นทางสโมสรฯ ยึดใช้สนามกีฬาภายในมหาวิทยาลัยรามคำแหง เป็นรังเหย้า โดยแข่งขันในเวลา 16.00 น. หลังจากนั้นจะดำเนินการย้ายไปแข่งขันที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง ต่อไป ซึ่งเกมการแข่งขันนัดแรกของ พราม แบงค็อก จะต้องบุกไปเยือน นนทบุรี ยูไนเต็ด ที่สนามกีฬาจังหวัดนนทบุรี วันที่ 4 ตุลาคม 2563 เวลา 18.00 น.