พิพัฒน์ ต้นกันยา เผยด้วยข้อจำกัดเม็ดเงินทำเลก 2 พัทยา ดิสคอฟเวอร์รี่ ยูไนเต็ด ปล่อยแข้งส่วนเกินลดขนาดทีม รับทำใจเสีย คูรูม่า โมฮัมเหม็ด ตัวรุกต่างชาติ แต่มั่นใจตนและลูกทีมที่เหลือทดแทนได้

 

 

“โลมาสายพันธุ์ใหม่” พัทยา ดิสคอฟเวอร์รี่ ยูไนเต็ด ทีมในศึกไทยลีก 3 โศนตะวันออก ทำผลงานในเลกแรกไม่ดีนัก เก็บไป 13 แต้มจาก 11 นัดที่ลงสนามรั้งที่ 8 ของตารางคะแนน โดยล่าสุดสื่อ SPSTH ต่อสายหา “โค้ชต้น” พิพัฒน์ ต้นกันยา โค้ชแอนด์เพลเยอร์ พัทยา ดิสคอฟเวอร์รี่ ยูไนเต็ด ถึงแผนงาน และแนวทางในเลก 2

 

โดยอดีตดาวยิงทีมชาติที่ยังไม่ทิ้งลายเพชรฆาตในกรอบโทษ เมื่อซัดช่วยทีมไปแล้ว 6 ประตูนำเป็นดาวซัลโวพัทยา ดิสคอฟเวอร์รี่ ยูไนเต็ด เผยว่า “เราเป็นบอลเกมรุกอยู่แล้ว ทำให้หลายนัดเราปิดเกมไม่ลง ทำแต้มตกหล่นไปพอสมควร ก็ทำให้เราต้องปรับเปลี่ยนดึง โค้ชปอย (รังสฤษดิ์ สุทธิสา) มาช่วยทำให้เกมตรงกลางเราดีขึ้น ซึ่งบทบาทปีนี้ผมหนักจากที่เป็น โค้ชแอนด์เพลเยอร์ ตอนนี้กลายเป็น เพลเยอร์แอนด์โค้ช แต่ตอนนี้ก็เบาใจขึ้นครับเมื่อได้เพ่อนรักมาช่วยแก้เกมแทนยามที่ผมลงไปเล่นในสนาม”

 

“ด้วยความที่งบเราจำกัด เมื่อต้นฤดูกาลก็เกือบจะพักทีมแล้วแต่สุดท้ายก็กลับลำสู้กันต่อ ก็ต้องชื่นชมครับหลายๆ คนมาสู้ด้วยใจ และเป็นการพิสูจน์ตัวผมเองด้วยว่าสามารถทำทีมที่มีข้อจำกัดได้ดีแค่ไหน”

 

พิพัฒน์ ต้นกันยา กล่าวต่อว่า “ศักยภาพเราผมยังเชื่อว่าสู้กับทีมหัวตารางได้หมด เลก 2 อย่างที่บอกด้วยข้อจำกัดในเรื่องงบ เราคงไม่เสริมตัวอะไร อาจปล่อยขุมกำลังที่ไม่ได้ใช้ออกด้วยเพื่อให้ขนาดทีมกระชับ และง่ายต่อการจัดการขึ้น รวมถึงรูปแบบการเล่นก็จะเน้นการครองเกมมากขึ้น”

 

“เกมรุกเราอาจเสีย โมโม่ (คูรูม่า โมฮัมเหม็ด) ที่ย้ายทีมไป แต่ผมก็มั่นใจว่าผู้เล่นอย่าง สุรัตน์ สุริยะฉาย, ธานี พรมด้วง , ภุชงค์ นาโควงค์ รวมถึงผม ก็สามารถทดแทนได้ คือ โมโม่ เราคุยกันตั้งแต่ต้นซีซั่นแล้วว่าเราจะช่วยกันไปก่อน เมื่อเลก 2 มีทีมที่สนใจเขาเข้ามาเราก็ไม่ได้ปิดโอกาส มันเป็นไปตามวิถีครับ เลก 2 เราก็ต้องใช้ทรัพยากรที่เรามีให้คุ้มค่าที่สุดก็มั่นใจว่าเราก็มีโอกาสขึ้นไปจบครึ่งบนตารางได้เหมือนกัน”

 

ขอบคุณภาพ PATTAYA DISCOVERY UNITED