ศิริพงษ์ ฐานราชวงศ์ศึก ยิ้มออก พิษณุโลก เอฟซี ดีขึ้นผิดหูผิดตา แจ้งข่าวดีปรับเวลาเตะ 16.00 น. พร้อมแย้มยังไม่ปิดกล่องเสริมทัพ แม้ขุมกำลังสุดปึ๊กแล้วก็ตาม

 

 

 

พิษณุโลก เอฟซี ทำผลงานในเลก 2 ได้อย่างร้อนแรงกวาดชัยรวด 2 นัด ส่งผลให้ทีมขยับมารั้งที่ 2 ของตารางคะแนนไทยลีก 3 โซนเหนือ เก็บไปแล้ว 26 แต้มจาก 12 นัด ล่าสุดสื่อ SPSTH ได้สอบถามไปยัง ศิริพงษ์ ฐานราชวงศ์ศึก ประธานสโมสรพิษณุโลกเอฟซี ถึงผลงานที่ดีขึ้นผิดหูผิดตา

 

“บอสต้น” เผยว่า “ช่วงเปิดตลาดที่ผ่านมาทีมเรามีการปรับเปลี่ยนผู้เล่นหลายคน ต้องบอกว่าตัวที่เข้ามาใหม่ สามารถทำได้ดี ไม่ใช่แค่ทดแทน มันทำให้รูปเกมมีคุณภาพขึ้น ก็ได้ลองนับผลสกอร์ดูเล่นๆ 2 นัดแรกในเลก 2 เรายิงได้ 6 ประตู แต่เลกแรกกว่าจะยิงได้เท่านี้คือต้องใช้เวลาถึง 5-6 นัด ในเรื่องการเข้าทำ การจบสกอร์ มันมีมิติขึ้น ไม่ว่าจะเป็น อาทิตย์ ภีระบรรณ ที่ตอบโจทย์เกมริมเส้น การจบสกอร์ก็ทำได้ดี , ศรัณย์ ศรีเดช ล่าสุดก็ลงมายิงประตูปิดกล่องได้ หรืออย่าง เจ้าฟิล์ม (กิตินันท์ สุทธิวิริยะกุล) ที่ย้ายมาจาก นอร์ทเทิร์นตาก ก็สามารถเข้ามายึดตัวหลักได้ทันทีช่วยให้กลางเราสมดุลขึ้น รวมถึง จ่าจิ๋ว (จักรพันธ์ ศรีละพันธ์) ทีได้โอกาสและทำได้ดี มันทำให้เกมเราลงตัวขึ้น นักเตะที่มาใหม่ตอบโจทย์แท็กติกโค้ชขึ้น มันเลยผลงานออกมาดีอย่างที่เห็น”

 

อย่างไรก็ตามจากผลงานที่ดีก็ส่งผลให้นักเตะในทีมเป็นที่สนใจในตลาด จนมีทีมระดับไทยลีก 2 ติดต่อตรงกับแข้ง “ขุนพลนเรศวร” ในเรื่องนี้ ศิริพงษ์ ฐานราชวงศ์ศึก เผยว่า “คือผลงานช่วงเลก 2 เราทำผลงานได้ดีทั้งหมด กอปรกับตลาดนักเตะไทยลีก 1-2 ก็กำลังจะเปิดเมื่อเช้าที่ผ่านมาก็มีนักเตะต่างชาติเรามาแจ้งกับผมว่ามีทีมไทยลีก 2 ติดต่อมา สโมสรจะมีท่าทีอย่างไร จะปล่อยเขาไหม ก็อยากชี้แจงไว้ตรงนี้อีกครั้งว่าถ้าอยากได้ให้มาคุยกันตรงๆ ครับ ไปคุยกับนักเตะโดยตรงแบบนี้มันผิดมารยาท”

 

นอกจากนี้ “ขุนพลนเรศวร” ยังถือโอกาสปรับเวลาแข่งขันเกมเหย้าเป็น 16.00 น. เริ่มตั้งแต่เกมในวันพุธที่ 23 ธ.ค. 63 ในเรื่องนี้ “บอสต้น” เผยว่า “จากเดิมเราเตะ 15.45 น. และต้องขยับเตะไวขึ้นเป็น 15.30 น. มันรู้สึกว่าสงสารนักบอล กองเชียร์ คือสภาพอากาศที่พิษณุโลก มันค่อนข้างร้อนมันเป็นผลกระทบต่อเนื่องไปจนถึงคุณภาพเกมเราด้วย รวมถึงเป็นอุปสรรคต่อแฟนบอลที่เข้าชม ทำให้เราตัดสินใจขอปรับเวลาแข่งขันกับทางไทยลีก เป็น 16.00 น. และจะมีการเปิดไฟส่องสว่างช่วงท้ายเกมแทน”

 

สื่อ SPSTH ถามทิ้งท้ายถึงการเสริมทัพในเวลานี้ว่าเพียงพอหรือยัง ปธ.พิษณุโลก เปิดเผยว่าแม้ขุมกำลังที่มีอยู่ลงตัวแล้ว แต่ทีมยังไม่ปิดกล่องเสริมทัพแต่อย่างใด “ตอนนี้ถือว่าขุมกำลังที่เรามีอยู่ถือว่าดีแล้ว แต่เราก็ยังไม่หยุดช็อปแค่นี้ ตำแหน่งที่เรายังต้องการเสริมคือ แบ็กขวาที่เรามีแค่ เจ้าไว (อภิเดช จันสีทา) ก็ต้องหาแบ็กอัพไว้อีกสักคน ส่วนที่โค้ชโม อยากได้จะเป็นกลางรับที่มีประสบการณ์มาช่วยแบ่งเบาภาระ เจ้าต้น (อัครเดช สถานทุง) อีกตำแหน่งคือโควตาต่างชาติที่เราปล่อย ทาคุ ออกไป ก็เล็งๆ ไว้ที่กองหน้าสไตล์เก็บบอลตัวใหญ่ๆ เราก็กำลังมองหาอยู่”

 

 

ขอบคุณภาพ Phitsanulok Football Club